What is

Health
Security

ความมั่นคงด้านสุขภาพ หรือ Health Security

ความมั่นคงด้านสุขภาพ หรือ health security คำนี้มีการใช้อย่างแพร่หลายในวงกว้าง มีการกำหนดนิยามและขอบเขต แตกต่างกันไป ในที่นี้จะอธิบายความหมายตามองค์การอนามัยโลกและศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรัฐอเมริกา ความมั่นคง ทางสุขภาพ หมายถึง การมีระบบสุขภาพที่เข้มแข็ง ยืดหยุ่น และยั่งยืน (strong/resilience/sustainable) เพียงพอที่จะ ป้องกัน ตรวจจับ และตอบสนองต่อภัยสุขภาพ รวมถึงการลดอันตรายและผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ไม่ว่าภัย สุขภาพนั้นจะเกิดขึ้นที่ใดในโลก ความมั่นคงด้านสุขภาพเป็นคำที่เปิดมุมมองในวงกว้าง โดยใช้เลนส์ด้านความมั่นคงในการ มอง ในแวดวงคนทำงานสุขภาพ มีความพยายามส่งเสริมวลี “ความมั่นคงด้านสุขภาพ คือ ความมั่นคงของชาติ” เพื่อให้ ภาคส่วนอื่นๆ มาร่วมมือและขับเคลื่อนงานสุขภาพมายาวนาน แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เพราะในการขับเคลื่อน ประเทศ

การวิจัยระดับโลกเกี่ยวกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19)

การกล่าวถึงบริษัทใดบริษัทหนึ่งหรือผลิตภัณฑ์ของผู้ผลิตบางรายในสิ่งพิมพ์ที่ระบุไว้ในฐานข้อมูลไม่ได้หมายความว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้รับการรับรองหรือแนะนำโดย WHO มากกว่าบริษัทอื่นที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันซึ่งไม่ได้กล่าวถึง ยกเว้นข้อผิดพลาดและการละเว้น ชื่อของผลิตภัณฑ์ที่เป็นกรรมสิทธิ์จะแยกความแตกต่างด้วยอักษรตัวใหญ่เริ่มต้น

ถุงน้ำรังไข่หลายใบ (PCOS)

กลุ่มอาการถุงน้ำรังไข่หลายใบ หรือ Polycystic Ovary Syndrome (PCOS) เป็นภาวะที่เกิดจากความผิดปกติของระบบต่อมไร้ท่อหรือฮอร์โมนในร่างกาย ซึ่งยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด ภาวะดังกล่าวส่งผลให้มีการตกไข่ที่ไม่สม่ำเสมอหรือไม่มีการตกไข่

เวียนหมุนจากโรคตะกอนหินปูนหูชั้นในเคลื่อน

Benign Paroxysmal Positional Vertigo – BPPV เป็นสาเหตุของอาการเวียนศีรษะที่พบได้บ่อยที่สุดในผู้ป่วยที่มีอาการเวียนศีรษะจากโรคหู ผู้ป่วยมักมีอาการเวียนศีรษะบ้านหมุนแบบเฉียบพลัน สัมพันธ์กับท่าทางหรือการขยับศีรษะ พบได้ทุกช่วงอายุ โดยพบมากขึ้นในผู้ป่วยสูงอายุ

นิทรรศการภาพถ่าย: เข้าข้างวิทยาศาสตร์เพื่อผลลัพธ์ที่ดีต่อสุขภาพ

แนวทางการดูแลการทำแท้งของ WHO ส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวย ซึ่งผู้คนมีส่วนร่วมในด้านสุขภาพและการดูแลของตน ในขณะที่ผู้คนก้าวผ่านเส้นทางการดูแลการทำแท้ง (ก่อนทำแท้ง การทำแท้ง หลังการทำแท้ง) บริการด้านสุขภาพจะต้องบูรณาการภายในภาคส่วนด้านสุขภาพเพื่อให้แน่ใจว่าการให้บริการจะตรงตามความต้องการของผู้หญิงและเด็กผู้หญิง - อย่างเท่าเทียมกันและปราศจากการเลือกปฏิบัติ

โรคอ้วนและน้ำหนักเกิน

สภาพแวดล้อมที่ก่อให้เกิดโรคอ้วนซึ่งทำให้โอกาสที่จะเป็นโรคอ้วนในบุคคล ประชากร และในสภาพแวดล้อมต่างๆ รุนแรงขึ้น มีความสัมพันธ์กับปัจจัยเชิงโครงสร้างที่จำกัดความพร้อมของอาหารที่ยั่งยืนและดีต่อสุขภาพในราคาที่เอื้อมถึงในท้องถิ่น การขาดการเคลื่อนไหวทางกายภาพที่ปลอดภัยและง่ายดายในชีวิตประจำวันของทุกคน และการขาดงาน มีสภาพแวดล้อมทางกฎหมายและข้อบังคับที่เพียงพอ

ต้อหิน…ภัยเงียบที่น่ากลัว

ต้อหินเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการสูญเสียการมองเห็นถาวรที่พบได้มากที่สุด มีคนไทยมากกว่า2ล้านคนเป็นต้อหิน และกว่า76ล้านคนทั่วโลกในปี2020

Global health security capacity:
Tools and measurement

ในระดับนานาชาติ ได้ให้ความสำคัญกับการจัดทำเครื่องมือเพื่อประเมินขีดความสามารถด้านสาธารณสุขฉุกเฉิน โดยริเริ่มการดำเนินงานภายใต้กฎอนามัยระหว่างประเทศ ค.ศ. 2005 (IHR 2005) ซึ่งมีผลบังคับใช้ในปีค.ศ. 2007 ทั้งนี้รัฐสมาชิกได้ให้คำมั่นว่าจะพัฒนาขีดความสามารถด้านสาธารณสุขฉุกเฉินให้ถึงระดับมาตรฐาน ภายในปีค.ศ. 2012 โดยในระยะเริ่มต้นองค์การอนามัยโลกให้รัฐสมาชิกทำแบบประเมินตนเอง (self assessment tool) และพบว่ารัฐสมาชิกจำนวนหนึ่งขอผัดผ่อนที่จะดำเนินการและผลการประเมินตนเองไม่ตรงกับสถานะขีดความสามารถจริง ในปี ค.ศ. 2015 สมัชชาอนามัยโลกสมัยที่ 68 มีข้อมติที่จะพัฒนาการดำเนินการตาม IHR 2005 โดยมีข้อเสนอหนึ่งคือ ขอให้องค์การอนามัยโลกพัฒนาการประเมินขีดความสามารถด้านสาธารณสุข โดยการใช้แนวทางผสมผสานทั้งการประเมินตนเอง (Self evaluation) พิชญพิจารณ์ (Peer review) และการประเมินจากภายนอกด้วยความสมัครใจ (Voluntary External evaluation) โดยใช้ผู้เชี่ยวชาญจากทั้งในประเทศและต่างtประเทศ รวมทั้งพิจารณายุทธศาสตร์ในการดำเนินงานควบคู่ไปด้วย เช่น การเชื่อมโยงและการขอคำมั่นจากฝ่ายการเมืองระดับสูง รวมถึงการเชื่อมโยงกับภาคส่วนต่างๆ และควรจะมีส่วนร่วมจากสำนักงานองค์การอนามัยโลกประจำภูมิภาคต่างๆ ในปีค.ศ. 2018 องค์การอนามัยโลกจึงได้มีการพัฒนากรอบการประเมินการดำเนินงานตาม IHR ตามข้อมติของสมัชชาอนามัยโลก WHA68/22 Add.1 คือ The IHR Monitoring and Evaluation Framework (IHRMEF) ซึ่งมีองค์ประกอบสำคัญได้แก่ การรายงานหลักที่ต้องดำเนินการทุกปี (State Parties Annual Reporting) และ การประเมินด้วยความสมัครใจ (after action review, simulation exercise and voluntary external

เครื่องมือประเมินขีดความสามารถด้านสาธารณสุขฉุกเฉินในระดับสากล

The Joint 
External 
Evaluation 
(JEE)

เป็นเครื่องมือที่พัฒนาขึ้นเพื่อประเมินขีดความสามารถของประเทศในการป้องกัน ตรวจจับ และการตอบสนอง ต่อภัยคุกคามทางสุขภาพ ซึ่งเครื่องมือนี้ จะเป็นการประเมิน จากภายนอก เพื่อวัดสถานะของประเทศ (Country-specific status) และความก้าวหน้าในการบรรลุ เป้าหมาย (targets)

GHSA
Country 
Assessment 
Tool

GHSA Country Assessment tool จัดทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อวัดสถานะของประเทศ (Country Specific Status) และความก้าวหน้าในการบรรลุเป้าหมายตาม GHSA ทั้งนี้ กระบวนการในการประเมินจะเน้นเรื่องของความยั่งยืนและความยืดหยุ่น

Global
Health
Security
(GHS) index

The Global Health Security (GHS) Index เป็นการประเมิน แบบรอบด้านเป็นครั้งแรกที่จัดทำขึ้นเพื่อวัดระดับขีดความสามารถด้านความมั่นคงทางสุขภาพของ 195 รัฐสมาชิกภายใต้ IHR 2005 โดยเริ่มดำเนินการในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2019

วิวัฒนาการ
การอภิบาลสุขภาพโลก
และความมั่นคงด้านสุขภาพ

โรคระบาดก่อให้เกิดการสูญเสียชีวิต เศรษฐกิจและความมั่นคงทางสังคมมาหลายยุคสมัย การระบาดมีวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องจากอดีตถึงปัจจุบัน ทั้งจากการปรับตัวของเชื้อโรค

ปี 541-1850
กาฬโรคแห่งจัสติเนียน หรือโรคห่า
กาฬโรคแห่งจัสติเนียน หรือโรคห่า

ไม่ปรากฎหลักฐานของการตั้งกลไกการ อภิบาลสุขภาพโลก

อ่านต่อ

ค.ศ.165
โรคระบาด อันโทนีน
โรคระบาด อันโทนีน

โรคระบาดอันโทนีน หรืออีกชื่อหนึ่งว่า the Plague of Galen เป็นโรคฝีดาษหรือไข้ทรพิษที่ระบาดในอาณาจักรโรมัน สาเหตุการเกิดนั้นเชื่อกันว่ามาจากกองทัพโรมันที่เดินทางกลับมาจากแถบตะวันออกใกล้ (Near East หมายถึงประเทศแถบเอเชียตะวันตก ตุรกี อียิปต์ ไปจนถึงจักรวรรดิออตโตมัน) ทั้งนี้ยังไม่ทราบต้นตอการเกิดที่แน่ชัด เหตุการณ์ในครั้งนี้สร้างความเสียหายใหญ่หลวงแก่กรุงโรมมาก มีผู้เสียชีวิตถึงวันละ 2,000 คน ประมาณยอดผู้เสียชีวิตรวมทั้งหมดประมาณ 5 ล้านคน การแพร่ระบาดในครั้งนี้ยังส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงถึงเรื่องของเส้นทางการค้าขาย Indo-Raman Trade ในแถบมหาสมุทรอินเดียด้วย

อ่านต่อ

ปี 1851-1925
เกิดอหิวาตกโรค
ยุคของการรวมตัวของประเทศต่างๆ เพื่อหารือการควบคุมโรคระบาดร่วมกัน

ประเทศต่างๆ เริ่มมีการพบปะพูดคุยกันเป็น ครั้งคราว (Adhoc multilateral) ต่อมาเริ่ม มีการพูดคุยกันสม่ำเสมอในประเด็นที่ต้อง การการทำงานร่วมกัน (Institutional mu ltilateral) และประเด็นการควบคุมโรคระ บาดเป็นวาระหนึ่งที่มีการหยิบยกมาหารือ ร่วมกัน

อ่านต่อ

ปี 1926
เกิดกฎหมายระหว่างประเทศ International Sanitary Convention

นับเป็นความเคลื่อนไหวและจุดเริ่มต้นที่สำ คัญการเริ่มจัดการโรคระบาดอย่างเป็นระ บบในระดับโลก มีการปรับปรุงในเวลาต่อมา จนเป็นกฎอนามัยระหว่างประเทศที่ใช้อยู่ใน ปัจจุบัน เพื่อให้ทันกับบริบทของการระบาด ในระดับโลก

อ่านต่อ

ปี 1946
กำเนิดองค์การอนามัยโลก

การจัดตั้งองค์การอนามัยโลกขึ้น เพื่อเป็น หน่วยงานดูแลด้านสุขภาพให้แก่ประชาคม โลก โดยเป็นหน่วยงานที่มีภารกิจเฉพาะภาย ใต้สหประชาชาติ UN specialized Agency

อ่านต่อ

ปี 1951-1969
ไข้หวัดใหญ่เอเชีย
วิวัฒนาการของ International HealthRegulation (IHR)

เมื่อมีการจัดตั้งองค์การอนามัยโลก มีการ ปรับปรุง The International Sanitary Regulations เพื่อรวบรวมข้อตกลงระหว่าง ประเทศหลายฉบับภายใต้ International Sanitary Convention ให้มาอยู่ในเครื่อง มือเดียวกัน

อ่านต่อ

ปี 1995-2002
เสนอแก้ไข ทบทวน IHR ท่ามกลางความเห็นที่หลากหลายของประเทศสมาชิกWHO

เมื่อมีการจัดตั้งองค์การอนามัยโลก มีการ ปรับปรุง The International Sanitary Regulations เพื่อรวบรวมข้อตกลงระหว่าง ประเทศหลายฉบับภายใต้ International Sanitary Convention ให้มาอยู่ในเครื่อง มือเดียวกัน

อ่านต่อ

ปี 2003
เกิดโรคซาร์ส
แต่งตั้ง Intergovernmental WorkingGroup (IGWG) เพื่อรับมือกับโรคซาร์ส

จากการระบาดของ SARS ทำให้ทั่วโลกเกิด การตื่นตัวและทำให้มีการแต่งตั้ง Intergo vernmental Working Group (IGWG) เพื่อเร่งรัดการดำเนินงานแก้ไข IHR

อ่านต่อ

ค.ศ.1500
Vicente Yáñez Pinzón ได้เดินทางเข้าสู่บราซิล

นักสำรวจชาวสเปน Vicente Yáñez Pinzón ได้เดินทางเข้าสู่บราซิลแต่ถูกขัดขวางโดยถูกอ้างว่ามีในสนธิสัญญาบายาโดลิด

อ่านต่อ

ปี 2005
รับรองกฎอนามัยระหว่างประเทศ

การประชุมสมัชชาอนามัยโลกสมัยที่ 58 และมีการบังคับใช้จะเห็นได้ว่ากระบวนการ แก้ไขปรับปรุงและการเจรจาต่อรองใช้เวลา นานถึง 10 ปีและมีการเร่งรัดกระบวนการ ด้วยความเร่งรีบในเวลารวมประมาณ 18 เดือน

อ่านต่อ

ปี 2006-2014
เกิดไข้หวัดหมู
สร้างคำมั่นสัญญาร่วมกันผ่านการประเมินและพัฒนาขีดความสามารถตามมาตรฐานIHR

จากการระบาดของ SARS ทำให้ทั่วโลกเกิด การตื่นตัวและทำให้มีการแต่งตั้ง Intergo vernmental Working Group (IGWG) เพื่อเร่งรัดการดำเนินงานแก้ไข IHR

อ่านต่อ

หลัง 2014
กลุ่มประเทศที่มีอิทธิพลเคลื่อนไหวและผลักดันความมั่นคงด้านสุขภาพ Global Health Security Agenda (GHSA)

นอกจากความเคลื่อนไหวภายใต้องค์การ อนามัยโลกแล้วยังมีความเคลื่อนไหวสำคัญโดย กลุ่มประเทศที่มีอิทธิพลทางการเมืองในระดับโลก

อ่านต่อ

The Joint External Evaluation (JEE)

ดูคะแนนตามหมวดหมู่ดัชนี

หมวดหมู่ : โดยรวม

1=ไม่มีความจุ; 2=ความจุจำกัด; 3=กำลังการผลิตที่พัฒนาแล้ว; 4=ความสามารถที่แสดงให้เห็น; 5=ความสามารถที่ยั่งยืน

Indicators Score
2560
Score
2565

P1. Legal instruments

P.1.1 Legislation, laws, regulations, administrative requirements, policies or other government instruments in place are sufficient for implementation of IHR (2005)

5 5

P.1.2 Legislation, laws, regulations, administrative requirements, policies or other government instruments in place are sufficient for implementation of IHR (2005)

4 4

JEE ได้รับการออกแบบมาเพื่อทบทวนช่องว่างและลำดับความสำคัญในการดำเนินการ เพื่ออำนวยความสะดวกในการพัฒนาแผนปฏิบัติการระดับชาติด้านความมั่นคงด้านสุขภาพ พวกเขาได้รับความสนใจอย่างมากและแข็งแกร่งการสนับสนุนในระดับสูงสุดจากประเทศสมาชิกและพันธมิตรทั่วโลก เนื่องจากทางเทคนิคแล้วประชุมทบทวนเสร็จสิ้นแล้ว 37 JEEs อยู่ระหว่างการเตรียมภารกิจอีก 31 ภารกิจ และอีกหลายภารกิจประเทศต่างๆ จำนวนมากได้แสดงความสนใจในการเป็นอาสาสมัครให้กับ JEE

หมวดหมู่ : ป้องกัน

1=ไม่มีความจุ; 2=ความจุจำกัด; 3=กำลังการผลิตที่พัฒนาแล้ว; 4=ความสามารถที่แสดงให้เห็น; 5=ความสามารถที่ยั่งยืน

Indicators Score
2560
Score
2565

P1. เครื่องมือทางกฎหมาย

P.1.1 ตราสารทางกฎหมาย

5 5

P.1.2 ความเสมอภาคทางเพศและความเท่าเทียมในภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพ

4 4

P2. การเงิน

P.2.1 การจัดหาเงินทุนสำหรับ IHR การดำเนินการ

4 4

P.2.2 การสนับสนุนทางการเงินเพื่อการตอบสนองภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข

4 4

P3. การประสานงาน IHR หน้าที่ของศูนย์ประสานงาน IHR แห่งชาติ และการสนับสนุน

P.3.1 ศูนย์ IHR แห่งชาติ ฟังก์ชั่นจุด

4 4

P.3.2 กลไกการประสานงานหลายภาคส่วน

5 5

P.3.3 การวางแผนเชิงกลยุทธ์ด้าน IHR การเตรียมพร้อม หรือความมั่นคงด้านสุขภาพ

5 5

P4. ความต้านทานต่อยาต้านจุลชีพ (AMR)

P.4.1 การประสานงานหลายภาคส่วนในเรื่อง AMR

5 5

P.4.2 การเฝ้าระวัง AMR

4 4

P.4.3 การป้องกัน MDRO

4 3

P.4.4 การใช้ยาต้านจุลชีพอย่างเหมาะสมต่อสุขภาพของมนุษย์

4 4

P.4.5 การใช้ยาต้านจุลชีพอย่างเหมาะสมต่อสุขภาพสัตว์และการเกษตร

4 4

P5. โรคที่ติดเชื้อจากสัตว์สู่คน

P.5.1 การเฝ้าระวังโรคจากสัตว์สู่คน

4 4

P.5.2 การตอบสนองต่อโรคจากสัตว์สู่คน

4 5

P.5.3 การปฏิบัติด้านการผลิตสัตว์อย่างถูกสุขลักษณะ

5 5

P6. ความปลอดภัยของอาหาร

P.6.1 การเฝ้าระวังโรคติดต่อและการปนเปื้อนจากอาหาร

4 5

P.6.2 การตอบสนองและการจัดการเหตุฉุกเฉินด้านความปลอดภัยของอาหาร

4 4

P7. ความปลอดภัยทางชีวภาพและความปลอดภัยทางชีวภาพ

P.7.1 มีการใช้ระบบความปลอดภัยทางชีวภาพและความปลอดภัยทางชีวภาพทั้งภาครัฐสำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับมนุษย์ สัตว์ และการเกษตร

4 4

P.7.2 การฝึกอบรมและแนวปฏิบัติด้านความปลอดภัยทางชีวภาพและความปลอดภัยทางชีวภาพในทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง (รวมถึงมนุษย์ สัตว์ และเกษตรกรรม)

4 4

P8. การสร้างภูมิคุ้มกัน

P.8.2 วัคซีนแห่งชาติ การเข้าถึงและการส่งมอบ

4 4

p.8.1 test

12 12

P.8.3 วัคซีนแห่งชาติ

6 5

ผู้เข้าร่วมห้ากลุ่มตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงที่เสนอต่อเครื่องมือ JEE และจัดเตรียมให้คำแนะนำ คำแนะนำระดับสูงและแนวทางที่นำเสนอมีดังต่อไปนี้สิ่งเหล่านี้แสดงถึงความคิดเห็นของแต่ละกลุ่ม ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เข้าร่วมประชุมทั้งหมด รายละเอียดของกลุ่มข้อเสนอและข้อเสนอแนะ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงทางบรรณาธิการอย่างกว้างขวางในบางกรณีมอบให้กับสำนักเลขาธิการ JEE เพื่อพิจารณาและรวมไว้ในเวอร์ชันถัดไปของเครื่องมือ.จากความคิดเห็นที่รวบรวมและหารือในการประชุม WHO จะให้คำแนะนำการเปลี่ยนแปลงโดยให้ความสำคัญกับการรักษาความเรียบง่ายการเปรียบเทียบระหว่างรายงานในเรื่องเดียวกันประเทศและแรงผลักดันโดยรวมของโครงการ JEE

หมวดหมู่ : ตรวจจับ

1=ไม่มีความจุ; 2=ความจุจำกัด; 3=กำลังการผลิตที่พัฒนาแล้ว; 4=ความสามารถที่แสดงให้เห็น; 5=ความสามารถที่ยั่งยืน

Indicators Score
2560
Score
2565

D1. ระดับชาติ ห้องปฏิบัติการ ระบบ ห้องปฏิบัติการ

D.1.1 ระบบส่งต่อและขนส่งสิ่งส่งตรวจ

4 4

D.1.2 ระบบคุณภาพห้องปฏิบัติการ

4 5

D.1.3 รังสีความสามารถในการทดสอบทางห้องปฏิบัติการ

4 5

D.1.4 เครือข่ายการวินิจฉัยระดับชาติที่มีประสิทธิผล

5 4

D2. การเฝ้าระวัง

D.2.1 ฟังก์ชันเฝ้าระวังการเตือนภัยล่วงหน้า

4 5

D.2.2 ฟังก์ชันเฝ้าระวังการเตือนภัยล่วงหน้า

5 4

D.2.3 การวิเคราะห์และแบ่งปันข้อมูล

5 4

D3. ทรัพยากรมนุษย์

D.3.1 กลยุทธ์กำลังคนหลายภาคส่วน

4 5

D.3.2 ทรัพยากรบุคคลเพื่อการดำเนินการตาม IHR

4 5

D.3.3 การฝึกอบรมบุคลากร

5 4

D.3.4 แรงงานเพิ่มขึ้นในช่วงเหตุการณ์ด้านสาธารณสุข

5 4

การพัฒนาและการดำเนินการตามบันทึกความเข้าใจ (MOU) หรือกรอบการทำงานอื่นที่คล้ายคลึงกันโดยสรุปบทบาท ความรับผิดชอบ และแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในการแบ่งปันข้อมูลที่เกี่ยวข้องระหว่างและระหว่างสุขภาพของมนุษย์และสัตว์ที่เหมาะสม การบังคับใช้กฎหมาย และบุคลากรด้านการป้องกัน และการตรวจสอบความถูกต้องของ MOU ผ่านการฝึกซ้อมเป็นระยะและ การจำลอง ในความร่วมมือกับ FAO องค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ (INTERPOL) OIE WHO รัฐภาคีอนุสัญญาว่าด้วยอาวุธชีวภาพและสารพิษรายบุคคล (และหน่วยสนับสนุนการดำเนินการตามความเหมาะสม) กลไกของเลขาธิการสหประชาชาติเพื่อการสอบสวนข้อกล่าวหาการใช้สารเคมีและ อาวุธชีวภาพ (UNSGM) และองค์กรระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องตามความเหมาะสม ประเทศต่างๆ จะพัฒนาและดำเนินการระบบต้นแบบเพื่อดำเนินการและสนับสนุนการสอบสวนทางอาญาและทางระบาดวิทยาร่วมกัน เพื่อระบุและตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่น่าสงสัยทางชีวภาพที่มีต้นกำเนิดโดยเจตนา

หลักฐานการตอบสนองต่อภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขอย่างน้อย 1 รายการภายในปีที่ผ่านมาที่แสดงให้เห็นว่าประเทศส่งหรือรับมาตรการตอบโต้ทางการแพทย์และบุคลากรตามระเบียบการระดับชาติหรือระดับนานาชาติที่เป็นลายลักษณ์อักษร หรือแบบฝึกหัดหรือการจำลองอย่างเป็นทางการที่แสดงให้เห็นสิ่งเหล่านี้

ประเทศต่างๆ จะมีกระบวนการทางกฎหมายและกฎระเบียบที่จำเป็น และแผนด้านลอจิสติกส์ เพื่อให้สามารถเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนได้อย่างรวดเร็วและรับบุคลากรด้านสาธารณสุขและการแพทย์ในระหว่างภาวะฉุกเฉิน ความร่วมมือระดับภูมิภาค (ระหว่างประเทศ) จะช่วยประเทศต่างๆ ในการเอาชนะความท้าทายด้านกฎหมาย ลอจิสติกส์ และกฎระเบียบในการส่งบุคลากรด้านสาธารณสุขและการแพทย์จากประเทศหนึ่งไปอีกประเทศหนึ่ง

หมวดหมู่ : การตอบสนอง

1=ไม่มีความจุ; 2=ความจุจำกัด; 3=กำลังการผลิตที่พัฒนาแล้ว; 4=ความสามารถที่แสดงให้เห็น; 5=ความสามารถที่ยั่งยืน

Indicators Score
2560
Score
2565

R1. การจัดการเหตุฉุกเฉินด้านสุขภาพ

R.1.1 การประเมินความเสี่ยงและความพร้อมในภาวะฉุกเฉิน

4 3

R.1.2 ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านสาธารณสุข (สพท.)

5 4

R.1.3 การจัดการการตอบสนองภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพ

4 4

R.1.4 การเปิดใช้งานและการประสานงานของบุคลากรทางการแพทย์ในกรณีฉุกเฉินด้านสาธารณสุข

4 4

R.1.5 การจัดการโลจิสติกส์และห่วงโซ่อุปทานฉุกเฉิน

4 5

R.1.6 การวิจัย พัฒนา และนวัตกรรม

5 4

R2. ลิงก์ในหน่วยงานด้านสาธารณสุขและความมั่นคง

R.2.1 หน่วยงานด้านสาธารณสุขและความมั่นคง (เช่น การบังคับใช้กฎหมาย การควบคุมชายแดน ศุลกากร) มีการเชื่อมโยงกันในระหว่างเหตุการณ์ทางชีววิทยา เคมี หรือรังสีวิทยาที่น่าสงสัยหรือได้รับการยืนยัน

5 4

R3. การให้บริการด้านสุขภาพ

R.3.1 การจัดการกรณีและปัญหา

5 4

R.3.2 การใช้บริการด้านสุขภาพ

5 4

R.3.3 ความต่อเนื่องของบริการสุขภาพที่จำเป็น (EHS)

5 3

R4.การป้องกันและควบคุมการติดเชื้อ (IPC)

R.4.1 โปรแกรม IPC

5 4

R.4.2 การเฝ้าระวัง HCAI

4 5

R.4.3 สภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย ในสถานพยาบาล

5 5

R5. การสื่อสารความเสี่ยงและการมีส่วนร่วมของชุมชน (RCCE)

R.5.1 ระบบ RCCE สำหรับเหตุฉุกเฉิน

5 4

R.5.2 การสื่อสารความเสี่ยง

4 4

R.5.3 การมีส่วนร่วมของชุมชน

4 4

เป้าหมาย: รัฐภาคีควรมีความสามารถในการเฝ้าระวังและตอบสนองต่อความเสี่ยงหรือเหตุการณ์ทางเคมี สิ่งนี้ต้องการการสื่อสารและความร่วมมือที่มีประสิทธิภาพระหว่างภาคส่วนที่รับผิดชอบด้านความปลอดภัยของสารเคมี อุตสาหกรรม การขนส่ง และการกำจัดอย่างปลอดภัย
ผลกระทบที่คาดหวัง: การตรวจจับอย่างทันท่วงทีและการตอบสนองอย่างมีประสิทธิผลต่อความเสี่ยงและ/หรือเหตุการณ์ทางเคมีที่อาจเกิดขึ้น โดยร่วมมือกับภาคส่วนอื่นๆ ที่รับผิดชอบด้านความปลอดภัยของสารเคมี อุตสาหกรรม การขนส่ง และการกำจัดอย่างปลอดภัย

หมวดหมู่ : IHR Related Hazards and Points of Entry and Border Health

1=ไม่มีความจุ; 2=ความจุจำกัด; 3=กำลังการผลิตที่พัฒนาแล้ว; 4=ความสามารถที่แสดงให้เห็น; 5=ความสามารถที่ยั่งยืน

Indicators Score
2560
Score
2565

PoEs: ทางเข้าและสุขภาพชายแดน

PoE.3 แนวทางตามความเสี่ยงสำหรับมาตรการที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางระหว่างประเทศ

5 4

PoE.2 การตอบสนองด้านสาธารณสุขที่ PoEs

4 3

เทส01

5 4

CE: เหตุการณ์ทางเคมี

CE.1 กลไกที่จัดตั้งขึ้นและทำงานเพื่อตรวจจับและตอบสนองต่อเหตุการณ์ทางเคมีหรือเหตุฉุกเฉิน

5 4

CE.2 จัดให้มีสภาพแวดล้อมในการจัดการเหตุการณ์ทางเคมี

4 5

RE: เหตุฉุกเฉินด้านรังสี

RE.1 กลไกที่จัดตั้งขึ้นและทำงานเพื่อตรวจจับและตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉินทางรังสีและนิวเคลียร์

4 5

RE.2 จัดให้มีสภาพแวดล้อมเพื่อการจัดการเหตุฉุกเฉินทางรังสีและนิวเคลียร์

5 4

หมายเหตุ:
1. ภายใต้กรอบการประเมินขีดความสามารถของ IHR (2005) ปัจจุบัน มีการประเมินองค์ประกอบหลักเพียงองค์ประกอบเดียวของการสื่อสารความเสี่ยง – การสื่อสารสาธารณะ – องค์ประกอบที่ได้รับการประเมินเน้นไปที่ผลลัพธ์ของกิจกรรมการสื่อสารสาธารณะเป็นหลัก กรอบการทำงานที่ได้รับการปรับปรุงที่นำเสนอที่นี่กล่าวถึงผลลัพธ์การสื่อสารความเสี่ยง กรอบการทำงานนี้สร้างขึ้นจากเนื้อหาการประเมินขีดความสามารถของ IHR ที่มีอยู่ และใช้ "แบบจำลองเชิงตรรกะ" ที่มีหลักฐานเชิงประจักษ์เพื่อประเมินผลลัพธ์การสื่อสารความเสี่ยงฉุกเฉินที่พัฒนาขึ้นร่วมกันโดย WHO และ Harvard School of Public Health ในปี 2014
2. โดเมน 5 (การฟังแบบไดนามิกและการจัดการข่าวลือ) ควรได้รับการประเมินอย่างเป็นอิสระ เช่นเดียวกับที่เกี่ยวข้องกับโดเมน 2 (การสื่อสารและการประสานงานภายในและพันธมิตร), 3 (การสื่อสารสาธารณะ) และ 4 (การมีส่วนร่วมในการสื่อสารกับชุมชนที่ได้รับผลกระทบ)

หมวดหมู่ : เทสเพิ่มข้อมูล

เทสเพิ่มข้อมูล

Indicators Score
2560
Score
2565

เทสเพิ่มข้อมูล

Global Health Security (GHS) index

ดูคะแนนตามหมวดหมู่ดัชนี

หมวดหมู่ : โดยรวม

Indicators

การวิจัยแบบใช้คู่และวัฒนธรรมของวิทยาศาสตร์ที่รับผิดชอบ

Index Score & Change from 2562
  • 33.3

  • 0.0
Rank

7

คะแนนตัวบ่งชี้นี้คือผลรวมถ่วงน้ำหนักของคะแนนตัวบ่งชี้ย่อยต่อไปนี้:
1.5.1 การกำกับดูแลการวิจัยเกี่ยวกับเชื้อโรคที่เป็นอันตราย สารพิษ เชื้อโรคที่มีศักยภาพในการระบาดใหญ่ และ/หรือการวิจัยการใช้สองทางอื่นๆ การกำกับดูแลการวิจัยการใช้สองทาง รวมถึงการวิจัยเกี่ยวกับเชื้อโรคที่เป็นอันตรายเป็นพิเศษ สารพิษ และเชื้อโรคที่มีศักยภาพในการแพร่ระบาดหรือการวิจัยการใช้สองทางอื่นๆ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับวัตถุประสงค์ด้านความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัย
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
1.5.1a) หลักฐานการประเมินระดับชาติของการวิจัยการใช้สองทาง
1.5.1b) กฎหมาย/ข้อบังคับภายในประเทศเกี่ยวกับการกำกับดูแลการวิจัยการใช้สองทาง
1.5.1c) การมีอยู่ของหน่วยงานที่รับผิดชอบในการกำกับดูแลการวิจัยการใช้งานแบบคู่
1.5.2 ข้อกำหนดในการคัดกรองสำหรับผู้ให้บริการสารพันธุกรรม คำแนะนำในการคัดกรองทำให้แน่ใจได้ว่าผู้จัดหาวัสดุชีวภาพ/พันธุกรรมไม่ได้ ก) จัดหาวัสดุที่ไม่ควรแบ่งปัน และ ข) แบ่งปันวัสดุกับฝ่ายที่น่าสงสัย สิ่ง
ต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อกำหนดคะแนนตัวบ่งชี้ย่อย:
1.5.2a) ข้อกำหนดในการคัดกรอง DNA ที่สังเคราะห์แล้วเทียบกับรายการก่อนการขาย

Indicators

2.2) ห่วงโซ่อุปทานของห้องปฏิบัติการ

Index Score & Change from 2562
  • 100

  • 0.0
Rank

1

2.2 ห่วงโซ่อุปทานของห้องปฏิบัติการระบบการขนส่งตัวอย่างที่แข็งแกร่งและความสามารถในการขยายขนาดระบบการขนส่งและการทดสอบในระหว่างเหตุฉุกเฉิน ถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของความสามารถในการเฝ้าระวังและตรวจจับของประเทศต่างๆ ในระหว่างการระบาดของโรคติดเชื้อ

คะแนนตัวบ่งชี้นี้คือผลรวมถ่วงน้ำหนักของคะแนนตัวบ่งชี้ย่อยต่อไปนี้:
2.2.1 ระบบส่งต่อและขนส่งสิ่งส่งตรวจ ความสามารถในการขนส่งตัวอย่างจากทั่วประเทศไปยังศูนย์ทดสอบถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับระบบเฝ้าระวังระดับชาติที่มีประสิทธิผล
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
2.2.1a) ระบบการขนส่งตัวอย่างทั่วประเทศ
2.2.2 ความร่วมมือและการประสานงานห้องปฏิบัติการ ความสามารถในการขยายขนาดการทดสอบในระหว่างที่มีการระบาดของโรค จะช่วยรักษาการตอบสนองที่มีประสิทธิภาพและป้องกันการแพร่เชื้อต่อไป
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
2.2.2a) กลยุทธ์ในการเสริมขีดความสามารถในการตรวจระดับชาติในช่วงเกิดการระบาด

Indicators

3.7) ข้อจำกัดทางการค้าและการเดินทาง

Index Score & Change from 2562
  • 0

  • -75.0
Rank

171

3.7 ข้อจำกัดทางการค้าและการเดินทาง ข้อจำกัดด้านการค้าและการเดินทางอาจขัดขวางการตอบสนองต่อภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขได้โดยการจำกัดความพร้อมในการจัดหาสิ่งของหรือทรัพยากรมนุษย์ ตลอดจนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

คะแนนตัวบ่งชี้นี้คือผลรวมถ่วงน้ำหนักของคะแนนตัวบ่งชี้ย่อยต่อไปนี้
3.7.1 ข้อจำกัดทางการค้า การจำกัดการนำเข้าและส่งออกเวชภัณฑ์และที่ไม่ใช่ทางการแพทย์อาจขัดขวางการตอบสนองด้านสาธารณสุข ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อและการเสียชีวิตมากขึ้น และการระบาดที่ยืดเยื้อยาวนาน
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
3.7.1a ในปีที่ผ่านมา ประเทศได้ออกข้อจำกัดโดยปราศจากการสนับสนุนระหว่างประเทศ/ทวิภาคีในการส่งออก/นำเข้าสินค้าทางการแพทย์ (เช่น ยา ออกซิเจน เวชภัณฑ์ PPE) เนื่องจากการระบาดของโรคติดเชื้อหรือไม่ [ไม่ใช่ = 1; ใช่ = 0]
3.7.1b ในปีที่ผ่านมา ประเทศได้ออกข้อจำกัดโดยปราศจากการสนับสนุนระหว่างประเทศ/ทวิภาคีในการส่งออก/นำเข้าสินค้าที่ไม่ใช่ทางการแพทย์ (เช่น อาหาร สิ่งทอ ฯลฯ) เนื่องจากการระบาดของโรคติดเชื้อหรือไม่ [ไม่ใช่ = 1; ใช่ = 0]
3.7.2 ข้อจำกัดการเดินทาง ข้อจำกัดการเดินทาง ซึ่งมักนำมาใช้เพื่อลดการแพร่กระจายของโรค มักส่งผลกระทบเพียงเล็กน้อยในการป้องกันการแพร่กระจายของโรค แต่ขัดขวางความพยายามในการส่งหน่วยเผชิญเหตุแนวหน้าเพิ่มเติมไปยังพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
3.7.2a ในปีที่ผ่านมา ประเทศได้ดำเนินการสั่งห้ามผู้เดินทางที่เดินทางมาจากประเทศใดประเทศหนึ่งหรือประเทศใดประเทศหนึ่งเนื่องจากการระบาดของโรคติดเชื้อโดยไม่ได้รับการสนับสนุนจากระหว่างประเทศ/ทวิภาคีหรือไม่ [ไม่ใช่ = 1; ใช่ = 0]

Indicators

5.2) ข้อตกลงข้ามพรมแดนเกี่ยวกับการตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉินด้านสาธารณสุขและสุขภาพสัตว์

Index Score & Change from 2562
  • 50

  • 50
Rank

60

5.2 ข้อตกลงข้ามพรมแดนเกี่ยวกับการตอบสนองต่อภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขและสุขภาพสัตว์:ข้อตกลงเหล่านี้สามารถช่วยประเทศต่างๆ ในการประสานงานในการตอบสนองต่อภาวะฉุกเฉินด้านโรคติดเชื้อที่ขยายขอบเขตทั่วประเทศ

คะแนนตัวบ่งชี้นี้คือผลรวมถ่วงน้ำหนักของคะแนนตัวบ่งชี้ย่อยต่อไปนี้:
5.2.1: ข้อตกลงข้ามพรมแดน: ข้อตกลงข้ามพรมแดนเป็นเครื่องมือสำคัญในการป้องกันการแพร่กระจายของโรคติดเชื้อข้ามพรมแดนผ่านการเดินทางและกิจกรรมเชิงพาณิชย์ตามปกติ
ข้อมูลต่อไปนี้ใช้เพื่อกำหนดการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
5.2.1a: ประเทศนี้มีข้อตกลงข้ามพรมแดน ระเบียบการ หรือ MOU กับประเทศเพื่อนบ้าน หรือเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มภูมิภาค ที่เกี่ยวข้องกับเหตุฉุกเฉินด้านสาธารณสุขหรือไม่ (ใช่=1; ไม่ใช่=0)
5.2.1b: ประเทศนี้มีข้อตกลงข้ามพรมแดน ระเบียบการ หรือ MOU กับประเทศเพื่อนบ้าน หรือเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มภูมิภาคที่เกี่ยวข้องกับเหตุฉุกเฉินด้านสุขภาพสัตว์หรือไม่ (ใช่=1; ไม่ใช่=0)

Indicators

6.5) ความเปราะบางด้านสาธารณสุข

Index Score & Change from 2562
  • 70.7

  • +0.1
Rank

29

6.5 ความเปราะบางด้านสาธารณสุขได้แก่ ความสามารถ เช่น การเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพ ที่อาจเพิ่มหรือลดความเปราะบางของชุมชนต่อภัยคุกคามทางชีวภาพ

คะแนนตัวบ่งชี้นี้คือผลรวมถ่วงน้ำหนักของคะแนนตัวบ่งชี้ย่อยต่อไปนี้:
6.5.1 การเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพ: ผู้ที่สุขภาพกำลังดิ้นรนต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บที่มีอยู่แล้วหรือผู้สูงอายุ มักจะเสี่ยงต่อการติดโรคในระหว่างการระบาดมากกว่า
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
6.5.1a อายุขัยรวม (ปี)
6.5.1b อัตราการเสียชีวิตจากโรค NCD ตามมาตรฐานอายุ (ต่อประชากร 100,000 คน)
6.5.1c ประชากรอายุ 65 ปีขึ้นไป (% ของประชากรทั้งหมด)
6.5.1d ความชุกของการใช้ยาสูบในปัจจุบัน (% ของผู้ใหญ่)
6.5.1e ความชุกของโรคอ้วนในผู้ใหญ่ BMI >= 30 (ค่าประมาณมาตรฐานอายุ)
6.5.2 การเข้าถึงน้ำดื่มและสุขาภิบาล: ผู้ที่ขาดการเข้าถึงน้ำและสุขาภิบาลที่มีคุณภาพดี มีความเสี่ยงที่จะติดโรคที่เกิดจากน้ำ เช่น อหิวาตกโรค
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
6.5.2a เปอร์เซ็นต์ของบ้านที่สามารถเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำขั้นพื้นฐานเป็นอย่างน้อย
6.5.2b เปอร์เซ็นต์ของบ้านที่สามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกด้านสุขอนามัยขั้นพื้นฐานเป็นอย่างน้อย
6.5.3 ระดับการใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลสาธารณะต่อหัว: รัฐที่ล้มเหลวในการใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลอย่างเพียงพอ หรือมีการใช้จ่ายที่ไม่มีประสิทธิภาพอย่างมาก จะมีรากฐานที่อ่อนแอกว่าในการรับมือกับวิกฤติด้านสาธารณสุขที่กำลังเกิดขึ้น
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
6.5.3a ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของรัฐบาลทั่วไปในประเทศต่อหัว, PPP (ดอลลาร์ต่างประเทศในปัจจุบัน)
6.5.4 ความไว้วางใจในคำแนะนำทางการแพทย์และสุขภาพ: ความไว้วางใจในคำแนะนำทางการแพทย์และสุขภาพจากรัฐบาลและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการดำเนินการตามมาตรการบรรเทาผลกระทบที่จำเป็นในการป้องกันหรือจำกัดการแพร่กระจายของโรคให้ประสบความสำเร็จ
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
6.5.4a ส่วนแบ่งของประชากรที่ไว้วางใจคำแนะนำทางการแพทย์และสุขภาพจากรัฐบาล
6.5.4b ส่วนแบ่งของประชากรที่ไว้วางใจคำแนะนำทางการแพทย์และสุขภาพจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ

ยังไม่มีข้อตกลงที่จะมีส่วนร่วมกับประชากรในระดับชุมชนอย่างเป็นระบบในกรณีฉุกเฉิน
อาจมีการระดมทางสังคม การส่งเสริมสุขภาพ หรือการมีส่วนร่วมของชุมชนเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านสุขภาพด้านสุขภาพของมารดาเด็ก การสร้างภูมิคุ้มกันโรค มาลาเรีย วัณโรคและเอชไอวี/เอดส์ โปลิโอ NTD และโครงการพัฒนาจิตอื่นๆ แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ถูกนำมาใช้อย่างเป็นระบบสำหรับเหตุฉุกเฉิน

หมวดหมู่ : ป้องกัน

Indicators

ความต้านทานต่อยาต้านจุลชีพ (AMR)

Index Score & Change from 2562
  • 66.7

  • -0.7
Rank

53/195

1.1 การดื้อยาต้านจุลชีพ การติดตามและป้องกันการดื้อยาต้านจุลชีพ (AMR) ในประชากรแบคทีเรียทั้งในมนุษย์และสัตว์เป็นองค์ประกอบสำคัญของยุทธศาสตร์ความมั่นคงด้านสุขภาพของประเทศ

คะแนนตัวบ่งชี้นี้คือผลรวมถ่วงน้ำหนักของคะแนนตัวบ่งชี้ย่อยต่อไปนี้:
1.1.1 การเฝ้าระวัง การตรวจจับ และการรายงาน AMR การตรวจหาเชื้อโรค AMR ผ่านความสามารถในห้องปฏิบัติการและอัตราความสำเร็จในการรักษา (TB) เป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันการเกิด/การแพร่กระจายของเชื้อโรคที่ดื้อต่อการรักษา
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
1.1.1a) แผนระดับชาติสำหรับเชื้อโรคที่มีลำดับความสำคัญ AMR
1.1.1b) ความสามารถของห้องปฏิบัติการ/ห้องปฏิบัติการระดับชาติในการทดสอบเชื้อโรคที่มีลำดับความสำคัญ AMR
1.1.1c) การเฝ้าระวังสิ่งแวดล้อมแห่งชาติสำหรับสารตกค้าง/สิ่งมีชีวิต AMR
1.1.2 การควบคุมการต้านจุลชีพ การควบคุมการใช้ยาต้านจุลชีพอย่างเหมาะสมและปลอดภัยเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อป้องกัน AMR
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
1.1.2a) กฎหมายภายในประเทศที่กำหนดให้ต้องมีใบสั่งยาสำหรับการใช้ยาปฏิชีวนะ (มนุษย์)
1.1.2b) กฎหมายภายในประเทศที่กำหนดให้ต้องมีใบสั่งยาสำหรับการใช้ยาปฏิชีวนะ (สัตว์)

Indicators

โรคที่ติดเชื้อจากสัตว์สู่คน

Index Score & Change from 2562
  • 64.1

  • 0.0
Rank

3

1.2 โรคจากสัตว์สู่คน สิ่งสำคัญคือต้องติดตามและป้องกันโรคที่เกิดขึ้นบริเวณส่วนต่อประสานระหว่างคนกับสัตว์ เพื่อลดความเสี่ยงของโรคจากสัตว์สู่คนชนิดใหม่และอุบัติซ้ำถึงประชากรมนุษย์

คะแนนตัวบ่งชี้นี้คือผลรวมถ่วงน้ำหนักของคะแนนตัวบ่งชี้ย่อยต่อไปนี้:
1.2.1 การวางแผนระดับชาติด้านโรคจากสัตว์สู่คน/เชื้อโรค แผนปฏิบัติการเพื่อตอบสนองต่อโรคจากสัตว์สู่คนสามารถลดโอกาสการแพร่กระจายสู่มนุษย์ได้
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
1.2.1a) กฎหมาย/แผนงานโรคจากสัตว์สู่คน
1.2.1b) กฎหมาย/แผนในการระบุความเสี่ยงและการลดความเสี่ยงสำหรับเหตุการณ์ล้น
1.2.1c) กฎหมาย/แผนในการเฝ้าระวังและควบคุมเชื้อโรคจากสัตว์สู่คนหลายชนิด
1.2.1d) แผนก/หน่วยงาน/หน่วยข้ามกระทรวงสำหรับโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน
1.2.2 ระบบเฝ้าระวังโรคจากสัตว์สู่คน/เชื้อโรค การเฝ้าระวังโรคจากสัตว์ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดโรคระบาดในมนุษย์ช่วยป้องกันการเกิดโรคจากสัตว์สู่คนได้
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
1.2.2a) กลไกการเฝ้าระวัง/การรายงานโรคจากสัตว์สู่คนสำหรับเจ้าของปศุสัตว์
1.2.2b) กฎหมาย/ข้อบังคับเกี่ยวกับการรักษาความลับของข้อมูลเพื่อปกป้องเจ้าของปศุสัตว์
1.2.2ค) การเฝ้าระวังโรคจากสัตว์สู่คนของสัตว์ป่า
1.2.3 การรายงานการระบาดของโรคสัตว์ระหว่างประเทศ การติดตามโรคจากสัตว์สู่คนถือเป็นสิ่งสำคัญจากทั้งมนุษย์และสัตว์ข้ามพรมแดน
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
1.2.3a) การรายงานประจำปีต่อ OIE เกี่ยวกับอุบัติการณ์ของโรคจากสัตว์สู่คน
1.2.4 บุคลากรด้านสุขภาพสัตว์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพสัตว์สามารถระบุและป้องกันโรคที่อาจเกิดจากสัตว์สู่คนได้
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
1.2.4ก) จำนวนสัตวแพทย์ต่อ 100,000 คน
1.2.4b) จำนวนผู้ประกอบวิชาชีพสัตวแพทย์ต่อ 100,000 คน
1.2.5 ภาคเอกชนและโรคจากสัตว์สู่คน ภาคเอกชนสามารถมีบทบาทสำคัญในการบรรเทาการแพร่กระจายของโรคจากสัตว์สู่คนได้
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
1.2.5a) การรวมภาคเอกชนไว้ในแผน/กฎหมายระดับชาติว่าด้วยโรคจากสัตว์สู่คน

Indicators

ความปลอดภัยทางชีวภาพ

Index Score & Change from 2562
  • 69.3

  • 0.0
Rank

7

1.3 ความปลอดภัยทางชีวภาพ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับประเทศต่างๆ ในการสร้างโครงสร้างและระบบเพื่อรักษาความปลอดภัยของวัสดุชีวภาพและการวิจัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับเชื้อโรคที่เป็นอันตรายโดยเฉพาะ เพื่อป้องกันการใช้ในทางที่ผิดโดยไม่ได้ตั้งใจหรือโดยเจตนา

คะแนนตัวบ่งชี้นี้คือผลรวมถ่วงน้ำหนักของคะแนนตัวบ่งชี้ย่อยต่อไปนี้:
1.3.1 ระบบความปลอดภัยทางชีวภาพทั้งภาครัฐ เพื่อลดความเสี่ยงของการก่อการร้ายทางชีวภาพหรือการปล่อยก๊าซโดยไม่ได้ตั้งใจ ประเทศต่างๆ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีการระบุ กักเก็บ รักษาความปลอดภัย และตรวจสอบเชื้อโรคที่เป็นอันตรายโดยเฉพาะในสถานประกอบการจำนวนน้อยที่สุดตามแนวปฏิบัติที่ดีที่สุด และควรรับรองการถ่ายโอนสารชีวภาพอย่างปลอดภัย และกฎหมายความปลอดภัยทางชีวภาพและความปลอดภัยทางชีวภาพเฉพาะประเทศ ใบอนุญาตห้องปฏิบัติการ และมาตรการควบคุมเชื้อโรค
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
1.3.1a) บันทึกระดับชาติที่เป็นปัจจุบันเกี่ยวกับบัญชีรายชื่อเชื้อโรค/สารพิษที่เป็นอันตรายอย่างยิ่ง
1.3.1b) กฎหมายความปลอดภัยทางชีวภาพว่าด้วยความปลอดภัยของสถานที่สำหรับเชื้อโรคที่เป็นอันตรายโดยเฉพาะ
1.3.1c) หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย/ข้อบังคับด้านความปลอดภัยทางชีวภาพ
1.3.1d) การรวมเชื้อโรคที่เป็นอันตรายโดยเฉพาะไว้ในจำนวนสถานที่ขั้นต่ำ
1.3.1e) ความสามารถในการทดสอบโรคแอนแทรกซ์/อีโบลาโดยไม่ต้องเพาะเลี้ยงเชื้อโรคที่มีชีวิต
1.3.2 การฝึกอบรมและแนวปฏิบัติด้านความปลอดภัยทางชีวภาพ การฝึกอบรมทำให้พนักงานทุกคนตระหนักและปฏิบัติตามระเบียบการด้านความปลอดภัยทางชีวภาพที่จัดตั้งขึ้น
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
1.3.2a) การฝึกอบรมความปลอดภัยทางชีวภาพโดยใช้แนวทางที่เป็นมาตรฐานและจำเป็น
1.3.3 การตรวจคัดกรองบุคลากร: ควบคุมการเข้าถึงสถานที่ที่มีความละเอียดอ่อน การตรวจสอบความปลอดภัยของบุคลากรเป็นประจำจะประเมินความพร้อมของพนักงานในการทำงานในสถานที่ที่มีวัสดุชีวภาพที่อาจเกิดการแพร่ระบาด และลดภัยคุกคามจากภายใน
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
1.3.3a) บุคลากรตรวจสอบการอนุญาตให้เข้าถึงเชื้อโรคที่เป็นอันตรายโดยเฉพาะ
1.3.4 ความปลอดภัยในการขนส่ง การรับรองความปลอดภัยในการขนส่งสำหรับเชื้อโรค สารพิษ หรือวัสดุชีวภาพที่เป็นอันตรายโดยเฉพาะที่อาจเกิดการระบาดใหญ่ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับจุดประสงค์ด้านความปลอดภัย
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
1.3.4a) กฎระเบียบการขนส่งแห่งชาติสำหรับสารติดเชื้อประเภท A และ B
1.3.5 การโอนข้ามพรมแดนและการคัดกรองผู้ใช้ปลายทาง การกำกับดูแลผู้รับเชื้อโรคที่เป็นอันตราย สารพิษ และเชื้อโรคที่อาจเกิดการระบาดใหญ่เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อความปลอดภัย
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
1.3.5a) กฎหมาย/ข้อบังคับเกี่ยวกับการโอนข้ามพรมแดนและการคัดกรองผู้ใช้ปลายทาง

Indicators

ความปลอดภัยทางชีวภาพ

Index Score & Change from 2562
  • 50

  • 0.0
Rank

18

1.3 ความปลอดภัยทางชีวภาพ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับประเทศต่างๆ ในการสร้างโครงสร้างและระบบเพื่อรักษาความปลอดภัยของวัสดุชีวภาพและการวิจัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับเชื้อโรคที่เป็นอันตรายโดยเฉพาะ เพื่อป้องกันการใช้ในทางที่ผิดโดยไม่ได้ตั้งใจหรือโดยเจตนา

คะแนนตัวบ่งชี้นี้คือผลรวมถ่วงน้ำหนักของคะแนนตัวบ่งชี้ย่อยต่อไปนี้:
1.3.1 ระบบความปลอดภัยทางชีวภาพทั้งภาครัฐ เพื่อลดความเสี่ยงของการก่อการร้ายทางชีวภาพหรือการปล่อยก๊าซโดยไม่ได้ตั้งใจ ประเทศต่างๆ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีการระบุ กักเก็บ รักษาความปลอดภัย และตรวจสอบเชื้อโรคที่เป็นอันตรายโดยเฉพาะในสถานประกอบการจำนวนน้อยที่สุดตามแนวปฏิบัติที่ดีที่สุด และควรรับรองการถ่ายโอนสารชีวภาพอย่างปลอดภัย และกฎหมายความปลอดภัยทางชีวภาพและความปลอดภัยทางชีวภาพเฉพาะประเทศ ใบอนุญาตห้องปฏิบัติการ และมาตรการควบคุมเชื้อโรค
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
1.3.1a) บันทึกระดับชาติที่เป็นปัจจุบันเกี่ยวกับบัญชีรายชื่อเชื้อโรค/สารพิษที่เป็นอันตรายอย่างยิ่ง
1.3.1b) กฎหมายความปลอดภัยทางชีวภาพว่าด้วยความปลอดภัยของสถานที่สำหรับเชื้อโรคที่เป็นอันตรายโดยเฉพาะ
1.3.1c) หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย/ข้อบังคับด้านความปลอดภัยทางชีวภาพ
1.3.1d) การรวมเชื้อโรคที่เป็นอันตรายโดยเฉพาะไว้ในจำนวนสถานที่ขั้นต่ำ
1.3.1e) ความสามารถในการทดสอบโรคแอนแทรกซ์/อีโบลาโดยไม่ต้องเพาะเลี้ยงเชื้อโรคที่มีชีวิต
1.3.2 การฝึกอบรมและแนวปฏิบัติด้านความปลอดภัยทางชีวภาพ การฝึกอบรมทำให้พนักงานทุกคนตระหนักและปฏิบัติตามระเบียบการด้านความปลอดภัยทางชีวภาพที่จัดตั้งขึ้น
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
1.3.2a) การฝึกอบรมความปลอดภัยทางชีวภาพโดยใช้แนวทางที่เป็นมาตรฐานและจำเป็น
1.3.3 การตรวจคัดกรองบุคลากร: ควบคุมการเข้าถึงสถานที่ที่มีความละเอียดอ่อน การตรวจสอบความปลอดภัยของบุคลากรเป็นประจำจะประเมินความพร้อมของพนักงานในการทำงานในสถานที่ที่มีวัสดุชีวภาพที่อาจเกิดการแพร่ระบาด และลดภัยคุกคามจากภายใน
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
1.3.3a) บุคลากรตรวจสอบการอนุญาตให้เข้าถึงเชื้อโรคที่เป็นอันตรายโดยเฉพาะ
1.3.4 ความปลอดภัยในการขนส่ง การรับรองความปลอดภัยในการขนส่งสำหรับเชื้อโรค สารพิษ หรือวัสดุชีวภาพที่เป็นอันตรายโดยเฉพาะที่อาจเกิดการระบาดใหญ่ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับจุดประสงค์ด้านความปลอดภัย
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
1.3.4a) กฎระเบียบการขนส่งแห่งชาติสำหรับสารติดเชื้อประเภท A และ B
1.3.5 การโอนข้ามพรมแดนและการคัดกรองผู้ใช้ปลายทาง การกำกับดูแลผู้รับเชื้อโรคที่เป็นอันตราย สารพิษ และเชื้อโรคที่อาจเกิดการระบาดใหญ่เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อความปลอดภัย
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
1.3.5a) กฎหมาย/ข้อบังคับเกี่ยวกับการโอนข้ามพรมแดนและการคัดกรองผู้ใช้ปลายทาง

Indicators

การวิจัยแบบใช้คู่และวัฒนธรรมวิทยาศาสตร์ที่รับผิดชอบ

Index Score & Change from 2562
  • 33.3

  • 0.0
Rank

7

1.5 การวิจัยแบบใช้สองทางและวัฒนธรรมของวิทยาศาสตร์ที่รับผิดชอบประเทศต่างๆ มีบทบาทสำคัญในการสร้างสภาพแวดล้อมของวิทยาศาสตร์ที่มีความรับผิดชอบ เพื่อลดความเป็นไปได้ที่การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่ถูกกฎหมายจะถูกนำไปใช้ในลักษณะที่ขาดความรับผิดชอบหรือเป็นอันตราย

คะแนนตัวบ่งชี้นี้คือผลรวมถ่วงน้ำหนักของคะแนนตัวบ่งชี้ย่อยต่อไปนี้:
1.5.1 การกำกับดูแลการวิจัยเกี่ยวกับเชื้อโรคที่เป็นอันตราย สารพิษ เชื้อโรคที่มีศักยภาพในการระบาดใหญ่ และ/หรือการวิจัยการใช้สองทางอื่นๆ การกำกับดูแลการวิจัยการใช้สองทาง รวมถึงการวิจัยเกี่ยวกับเชื้อโรคที่เป็นอันตรายเป็นพิเศษ สารพิษ และเชื้อโรคที่มีศักยภาพในการแพร่ระบาดหรือการวิจัยการใช้สองทางอื่นๆ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับวัตถุประสงค์ด้านความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัย
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
1.5.1a) หลักฐานการประเมินระดับชาติของการวิจัยการใช้สองทาง
1.5.1b) กฎหมาย/ข้อบังคับภายในประเทศเกี่ยวกับการกำกับดูแลการวิจัยการใช้สองทาง
1.5.1c) การมีอยู่ของหน่วยงานที่รับผิดชอบในการกำกับดูแลการวิจัยการใช้งานแบบคู่
1.5.2 ข้อกำหนดในการคัดกรองสำหรับผู้ให้บริการสารพันธุกรรม คำแนะนำในการคัดกรองทำให้แน่ใจได้ว่าผู้จัดหาวัสดุชีวภาพ/พันธุกรรมไม่ได้ ก) จัดหาวัสดุที่ไม่ควรแบ่งปัน และ ข) แบ่งปันวัสดุกับฝ่ายที่น่าสงสัย สิ่ง
ต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อกำหนดคะแนนตัวบ่งชี้ย่อย:
1.5.2a) ข้อกำหนดในการคัดกรอง DNA ที่สังเคราะห์แล้วเทียบกับรายการก่อนการขาย

Indicators

การสร้างภูมิคุ้มกัน

Index Score & Change from 2562
  • 75

  • --25
Rank

43

1.6 การสร้างภูมิคุ้มกันการสร้างภูมิคุ้มกันโรคที่สามารถป้องกันได้ ไม่ว่าจะเป็นการติดเชื้อในเด็กหรือไข้หวัดใหญ่ที่ทำให้เกิดโรคได้สูง เป็นหนึ่งในเครื่องมือหลักประกันสุขภาพที่มีค่าที่สุดในโลก

คะแนนตัวบ่งชี้นี้คือผลรวมถ่วงน้ำหนักของคะแนนตัวบ่งชี้ย่อยต่อไปนี้:
1.6.1 อัตราการฉีดวัคซีน การฉีดวัคซีนป้องกันโรคในคนและสัตว์เป็นลำดับแรกในประเทศสามารถป้องกันโรคระบาดได้
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
1.6.1a) อัตราการสร้างภูมิคุ้มกัน (โรคหัด/MCV2)
1.6.1b) มีตัวเลขการฉีดวัคซีนสำหรับปศุสัตว์ (FMD) ผ่านฐานข้อมูล OIE

ยังไม่มีข้อตกลงที่จะมีส่วนร่วมกับประชากรในระดับชุมชนอย่างเป็นระบบในกรณีฉุกเฉิน
อาจมีการระดมทางสังคม การส่งเสริมสุขภาพ หรือการมีส่วนร่วมของชุมชนเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านสุขภาพด้านสุขภาพของมารดาเด็ก การสร้างภูมิคุ้มกันโรค มาลาเรีย วัณโรคและเอชไอวี/เอดส์ โปลิโอ NTD และโครงการพัฒนาจิตอื่นๆ แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ถูกนำมาใช้อย่างเป็นระบบสำหรับเหตุฉุกเฉิน

หมวดหมู่ : ตรวจจับ

Indicators

2.1) ความเข้มแข็งและคุณภาพของระบบห้องปฏิบัติการ

Index Score & Change from 2562
  • 87.5

  • +10
Rank

1/195

2.1 ความเข้มแข็งและคุณภาพของระบบห้องปฏิบัติการ ความสามารถในการระบุสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคของการระบาดได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ช่วยในการตรวจหา ป้องกัน และควบคุมโรค รวมถึงการพัฒนาทางเลือกในการทดสอบวินิจฉัยและการรักษา

คะแนนตัวบ่งชี้นี้คือผลรวมถ่วงน้ำหนักของคะแนนตัวบ่งชี้ย่อยต่อไปนี้:
2.1.1 ศักยภาพห้องปฏิบัติการในการตรวจหาโรคสำคัญ การทดสอบโรคที่สำคัญช่วยให้ประเทศต่างๆ สามารถระบุโรคระบาดที่อาจเกิดขึ้นได้ก่อนที่จะแพร่ระบาดในวงกว้าง
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
2.1.1a) ความสามารถในการวินิจฉัยระดับชาติสำหรับการทดสอบหลักที่กำหนดโดย WHO
2.1.1b) ยุทธศาสตร์ระดับชาติในการดำเนินการทดสอบในระหว่างเกิดเหตุฉุกเฉินด้านสาธารณสุข
2.1.2 ระบบคุณภาพห้องปฏิบัติการ ความสามารถในการขนส่งตัวอย่างไปยังสถานที่ทดสอบมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อระบบเฝ้าระวังระดับชาติที่มีประสิทธิภาพในการทำงาน
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
2.1.2a) ห้องปฏิบัติการอ้างอิงที่ได้รับการรับรองระดับชาติ
2.1.2b) การทบทวนการประกันคุณภาพของห้องปฏิบัติการอ้างอิง

Indicators

2.3) การเฝ้าระวังและการรายงานแบบเรียลไทม์

Index Score & Change from 2562
  • 100

  • +25.0
Rank

1

2.3 การเฝ้าระวังและการรายงานแบบเรียลไทม์ ระบบเฝ้าระวังและการรายงานทำหน้าที่เป็นกลไกการเตือนภัยล่วงหน้าที่ช่วยตรวจจับและดำเนินการตอบสนองต่อการระบาดของโรคติดเชื้อที่อาจคุกคามความมั่นคงด้านสุขภาพระดับชาติ ระดับภูมิภาค หรือระดับโลก

คะแนนตัวบ่งชี้นี้คือผลรวมถ่วงน้ำหนักของคะแนนตัวบ่งชี้ย่อยต่อไปนี้:
2.3.1 ตัวชี้วัดและระบบเฝ้าระวังและการรายงานตามเหตุการณ์ จำเป็นต้องมีกลไกการเฝ้าระวังและการรายงานที่แข็งแกร่งเพื่อตรวจจับการแพร่กระจายของโรคติดเชื้อที่อาจเกิดขึ้นในระยะเริ่มต้นของการระบาด
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อกำหนดคะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย: 2.3.1a) การเฝ้าระวังโรคติดเชื้อที่กำลังดำเนินอยู่ 2.3.1b) ความสามารถในการรายงานของ PHEIC
2.3.2 ระบบการรายงานแบบเรียลไทม์แบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ทำงานร่วมกันและเชื่อมต่อถึงกัน ระบบเฝ้าระวังและการรายงานอย่างทันท่วงทีช่วยให้สามารถแทรกแซงด้านสาธารณสุขได้ก่อนที่การระบาดจะแพร่กระจายไปในวงกว้าง
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
2.3.2a) ระบบเฝ้าระวังการรายงานทางอิเล็กทรอนิกส์ระดับชาติและระดับย่อย
2.3.2b) ความจุแบบเรียลไทม์ของระบบการรายงานทางอิเล็กทรอนิกส์

ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่จัดทำแผนที่ในระดับกลางและระดับท้องถิ่น ระบบการกระจายอำนาจ (รวมถึงการเงินและทรัพยากรมนุษย์) มีไว้สำหรับการมีส่วนร่วมของชุมชนที่เกี่ยวข้องกับผู้นำชุมชนและศาสนา องค์กรในชุมชน (CBO) และทีมกระจายอำนาจอื่น ๆ แนวปฏิบัติมาตรฐานในการพัฒนาสื่อการสื่อสารการศึกษาข้อมูล (IEC) โดยการมีส่วนร่วมของชุมชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลัก มีกลไกการปรึกษาหารือกับชุมชน (เช่น สายด่วน การสำรวจ ฯลฯ)

หมวดหมู่ : การตอบสนอง

Indicators

3.6) การเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสาร

Index Score & Change from 2562
  • 79.7

  • -3.8
Rank

49

3.6 การเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสาร เพื่อให้มั่นใจว่าข้อความและข้อมูลสำหรับการตอบสนองด้านสาธารณสุขจะเข้าถึงได้สำหรับประชาชนทั่วไป แพลตฟอร์มต่างๆ เช่น อินเทอร์เน็ตและการใช้งานมือถือ ควรสามารถเข้าถึงได้เป็นประจำ

คะแนนตัวบ่งชี้นี้คือผลรวมถ่วงน้ำหนักของคะแนนตัวบ่งชี้ย่อยต่อไปนี้
3.6.1 ผู้ใช้อินเทอร์เน็ต แพลตฟอร์มหลักในการแบ่งปันและรับข้อมูลในช่วงภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขคืออินเทอร์เน็ต
มีการประเมินต่อไปนี้เพื่อกำหนดคะแนนตัวบ่งชี้ย่อย:
3.6.1a เปอร์เซ็นต์ของครัวเรือนที่มีอินเทอร์เน็ต
3.6.2 สมาชิกมือถือ แพลตฟอร์มหลักในการแบ่งปันและรับข้อมูลในช่วงภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขคือผ่านโทรศัพท์มือถือ
โดยมีการประเมินต่อไปนี้เพื่อกำหนดคะแนนตัวบ่งชี้ย่อย:
3.6.2a ผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่-เซลลูล่าร์ต่อประชากร 100 คน
3.6.3 การเข้าถึงโทรศัพท์มือถือของผู้หญิง การรับรองความเท่าเทียมกันทางเพศในการเข้าถึงข้อมูลเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้สามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลในระหว่างที่เกิดภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
3.6.3a เปอร์เซ็นต์ช่องว่างระหว่างชายและหญิงที่บ้านมีโทรศัพท์มือถือ
3.6.4 การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของผู้หญิง การรับรองความเท่าเทียมกันทางเพศในการเข้าถึงข้อมูลเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้สามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลในระหว่างที่เกิดภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
3.6.4a เปอร์เซ็นต์ช่องว่างระหว่างชายและหญิงซึ่งบ้านสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้

Indicators

3.5) การสื่อสารความเสี่ยง

Index Score & Change from 2562
  • 100

  • +32.6
Rank

1

3.5 การสื่อสารความเสี่ยง การมีกลยุทธ์และเวทีในการส่งข้อความที่เหมาะสมต่อสาธารณชนอย่างรวดเร็ว และระงับข่าวลือที่อาจเกิดขึ้น หรือข้อมูลที่ผิดและบิดเบือน ถือเป็นเสาหลักที่จำเป็นในความสามารถในการตอบสนองต่อการระบาด

คะแนนตัวบ่งชี้นี้คือผลรวมถ่วงน้ำหนักของคะแนนตัวบ่งชี้ย่อยต่อไปนี้:
3.5.1 การวางแผนการสื่อสารความเสี่ยง แผนการสื่อสารความเสี่ยงที่แข็งแกร่งควรรวมถึงการสร้างความมั่นใจว่าข้อความได้รับการพัฒนาเพื่อเข้าถึงประชากรที่มีความต้องการการสื่อสารที่แตกต่างกัน และมีโฆษกที่สามารถระบุตัวตนได้ง่ายและเชื่อถือได้ในการนำเสนอข้อมูลใหม่หรือข้อมูลที่กำลังพัฒนา
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
3.5.1a ประเทศนั้นมีส่วนที่ให้รายละเอียดเกี่ยวกับแผนการสื่อสารความเสี่ยงที่จัดทำขึ้นเพื่อใช้ในระหว่างที่เกิดภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขโดยเฉพาะหรือไม่ ทั้งในแผนเผชิญเหตุฉุกเฉินด้านสาธารณสุขแห่งชาติ หรือในเอกสารกฎหมาย กฎระเบียบ หรือยุทธศาสตร์อื่นๆ [ใช่ = 1; ไม่ = 0]
3.5.1b แผนการสื่อสารความเสี่ยง (หรือเอกสารกฎหมาย กฎระเบียบ หรือกลยุทธ์อื่นๆ ที่ใช้เพื่อเป็นแนวทางในการตอบสนองด้านสาธารณสุขระดับชาติ) สรุปว่าข้อความจะเข้าถึงประชากรและภาคส่วนที่มีความต้องการการสื่อสารที่แตกต่างกันอย่างไร (เช่น ภาษาที่แตกต่างกัน สถานที่ภายในประเทศ การเข้าถึงของสื่อ) ? [ใช่ = 1; ไม่ = 0]
3.5.1c แผนการสื่อสารความเสี่ยง (หรือเอกสารกฎหมาย กฎระเบียบ หรือกลยุทธ์อื่นๆ ที่ใช้เพื่อเป็นแนวทางในการตอบสนองด้านสาธารณสุขระดับชาติ) กำหนดตำแหน่งเฉพาะภายในรัฐบาลเพื่อทำหน้าที่เป็นโฆษกหลักต่อสาธารณะในระหว่างเหตุฉุกเฉินด้านสาธารณสุขหรือไม่ [ใช่ = 1; ไม่ = 0]
3.5.2 การสื่อสารระบบสาธารณสุข ระบบการสื่อสารความเสี่ยงสำหรับการตอบสนองด้านสาธารณสุขจะต้องมีแพลตฟอร์มเพื่อระงับข่าวลือหรือข้อมูลที่ไม่ถูกต้องและบิดเบือนอย่างรวดเร็ว และรับประกันว่าผู้นำจะแบ่งปันข้อมูลที่ถูกต้องและเชื่อถือได้
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
3.5.2a ในปีที่ผ่านมา มีหลักฐานว่าระบบสาธารณสุขได้แบ่งปันข้อความอย่างจริงจังผ่านแพลตฟอร์มสื่อออนไลน์ (เช่น โซเชียลมีเดีย เว็บไซต์) เพื่อแจ้งให้สาธารณชนทราบเกี่ยวกับข้อกังวลด้านสาธารณสุขที่กำลังดำเนินอยู่ และ/หรือขจัดข่าวลือ ข้อมูลผิด หรือข้อมูลบิดเบือนหรือไม่ [ระบบสาธารณสุขแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาด้านสุขภาพเป็นประจำ = 2; ระบบสาธารณสุขแบ่งปันข้อมูลเฉพาะในกรณีฉุกเฉินที่เกิดขึ้น แต่ไม่ได้ใช้แพลตฟอร์มสื่อออนไลน์เป็นประจำ = 1; ระบบสาธารณสุขไม่ได้ใช้แพลตฟอร์มสื่อออนไลน์เป็นประจำ ไม่ว่าจะในกรณีฉุกเฉินหรืออย่างอื่น = 0]
3.5.2b มีหลักฐานว่าผู้นำระดับสูง (ประธานาธิบดีหรือรัฐมนตรี) ได้แบ่งปันข้อมูลที่ผิดหรือข้อมูลที่บิดเบือนเกี่ยวกับโรคติดเชื้อในช่วงสองปีที่ผ่านมาหรือไม่? [ไม่ใช่ = 1; ใช่ = 0]

เครื่องมือประเมินภายนอกร่วม (JEE) ขององค์การอนามัยโลก (WHO)
สนับสนุนการประเมินด้านสาธารณสุข: คะแนนจากรายงานการประเมินภายนอกร่วม (JEE) ขององค์การอนามัยโลก (WHO) และดัชนี GHS สะท้อนถึงการประเมินความมั่นคงด้านสุขภาพที่แตกต่างกัน และทั้งสองสามารถใช้ร่วมกันเพื่อสร้างภาพรวมที่สมบูรณ์มากขึ้นของการเตรียมพร้อมระดับโลก .

หมวดหมู่ : สุขภาพ

Indicators

4.1) ศักยภาพด้านสุขภาพในคลินิก โรงพยาบาล และศูนย์ดูแลชุมชน

Index Score & Change from 2562
  • 56.2

  • +16.6
Rank

24/195

4.1 ศักยภาพด้านสุขภาพในคลินิก โรงพยาบาล และศูนย์ดูแลชุมชน : อธิบายถึงศักยภาพของทรัพยากรบุคคลและสถานพยาบาลที่จำเป็นในการดูแลผู้ป่วยในช่วงวิกฤตโรคติดเชื้อ

คะแนนตัวบ่งชี้นี้คือผลรวมถ่วงน้ำหนักของคะแนนตัวบ่งชี้ย่อยต่อไปนี้:
4.1.1 ทรัพยากรบุคคลที่มีอยู่สำหรับระบบการรักษาพยาบาลในวงกว้าง: บุคลากรทางการแพทย์จำเป็นต้องป้องกัน ตรวจจับ และตอบสนองต่อโรคที่อาจเกิดโรคระบาด
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
4.1.1a แพทย์ต่อ 100,000 คน
4.1.1b พยาบาลและผดุงครรภ์ต่อ 100,000 คน
4.1.1c ประเทศมียุทธศาสตร์กำลังคนด้านสุขภาพ (ซึ่งได้รับการปรับปรุงในช่วงห้าปีที่ผ่านมา) เพื่อระบุสาขาที่มีกำลังคนไม่เพียงพอและมีกลยุทธ์ในการแก้ไขข้อบกพร่องเหล่านี้หรือไม่?
4.1.2 ขีดความสามารถด้านสิ่งอำนวยความสะดวก: สถานพยาบาลควรเพียงพอที่จะตอบสนองต่อโรคระบาด
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
4.1.2a เตียงในโรงพยาบาลต่อ 100,000 คน
4.1.2b ประเทศมีความสามารถในการแยกผู้ป่วยโรคติดต่อสูงในหน่วยดูแลผู้ป่วยที่บรรจุทางชีวภาพ และ/หรือห้อง/หน่วยแยกผู้ป่วยที่ตั้งอยู่ภายในประเทศหรือไม่?
4.1.2c แสดงให้เห็นความสามารถในการแยกส่วน

Indicators

4.2) ห่วงโซ่อุปทานสำหรับระบบสุขภาพและบุคลากรทางการแพทย์

Index Score & Change from 2562
  • 50

  • -14.5
Rank

36

4.2 ห่วงโซ่อุปทานสำหรับบุคลากรในระบบสุขภาพและบุคลากรทางการแพทย์:กลยุทธ์การจัดซื้อจัดจ้างเพื่อรองรับความต้องการในห้องปฏิบัติการและเวชภัณฑ์ตามปกติ ตลอดจนการสะสมและการผลิตในกรณีฉุกเฉิน

คะแนนตัวบ่งชี้นี้คือผลรวมถ่วงน้ำหนักของคะแนนตัวบ่งชี้ย่อยต่อไปนี้:
4.2.1 การจัดหาระบบการดูแลสุขภาพและห้องปฏิบัติการตามปกติ: กำหนดกลยุทธ์การจัดซื้อจัดจ้างเพื่อจัดหาอุปกรณ์ห้องปฏิบัติการและเวชภัณฑ์สำหรับความต้องการประจำ
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
4.2.1a มีระเบียบปฏิบัติการจัดซื้อจัดจ้างระดับชาติซึ่งกระทรวงสาธารณสุขและการเกษตรสามารถนำไปใช้ในการจัดหาอุปกรณ์ห้องปฏิบัติการ (เช่น อุปกรณ์ สารรีเอเจนต์ และสื่อ) และเวชภัณฑ์ (เช่น อุปกรณ์ PPE) สำหรับความต้องการตามปกติหรือไม่
4.2.2 การกักตุนในกรณีฉุกเฉิน: จัดให้มีการกักตุนเวชภัณฑ์และเวชภัณฑ์เพื่อใช้ในระหว่างภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
4.2.2a ประเทศนี้มีคลังเวชภัณฑ์ (เช่น MCM ยา วัคซีน อุปกรณ์ทางการแพทย์ PPE) ไว้ใช้ระดับชาติในช่วงฉุกเฉินด้านสาธารณสุขหรือไม่?
4.2.2b ประเทศนี้มีคลังอุปกรณ์ห้องปฏิบัติการ (เช่น รีเอเจนต์ สื่อ) ไว้ใช้ระดับชาติในระหว่างเกิดเหตุฉุกเฉินด้านสาธารณสุขหรือไม่?
4.2.2c มีหลักฐานว่าประเทศดำเนินการหรือกำหนดให้มีการทบทวนคลังสำรองของประเทศเป็นประจำทุกปีเพื่อให้แน่ใจว่ามีเพียงพอสำหรับเหตุฉุกเฉินด้านสาธารณสุขหรือไม่
4.2.3 การผลิตและการจัดหาสำหรับเหตุฉุกเฉิน: กลยุทธ์ที่กำหนดขึ้นในการจัดหาหรือผลิตอุปกรณ์ห้องปฏิบัติการและเวชภัณฑ์ในระหว่างเกิดเหตุฉุกเฉินด้านสาธารณสุข
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
4.2.3a แผนการยกระดับการผลิต (เวชภัณฑ์)
4.2.3b แผนการยกระดับการผลิต (วัสดุในห้องปฏิบัติการ)

Indicators

4.3) มาตรการรับมือทางการแพทย์และการจัดกำลังบุคลากร

Index Score & Change from 2562
  • 0

  • 0.0
Rank

37

4.3 มาตรการตอบโต้ทางการแพทย์และการจัดกำลังบุคลากร:ระบบที่จัดให้มีเพื่อรองรับการใช้มาตรการตอบโต้ทางการแพทย์ เช่น วัคซีน และการรับบุคลากรด้านสุขภาพจากต่างประเทศในกรณีฉุกเฉิน

คะแนนตัวบ่งชี้นี้คือผลรวมถ่วงน้ำหนักของคะแนนตัวบ่งชี้ย่อยต่อไปนี้:
4.3.1 ระบบการจ่ายมาตรการตอบโต้ทางการแพทย์ (MCM) ในระหว่างภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข: ประเทศต่างๆ จำเป็นต้องสามารถแจกจ่ายมาตรการตอบโต้ทางการแพทย์ที่จำเป็นในระหว่างภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขได้
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
4.3.1 ประเทศมีแผน โปรแกรม หรือแนวปฏิบัติในการจ่ายมาตรการรับมือทางการแพทย์ (MCM) เพื่อใช้ระดับชาติในช่วงภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข (เช่น ยาปฏิชีวนะ วัคซีน การรักษาโรค และการวินิจฉัย) หรือไม่?
4.3.2 ระบบการรับบุคลากรสาธารณสุขต่างประเทศในช่วงภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข ประเทศต่างๆ ควรสามารถรับบุคลากรด้านสุขภาพที่จำเป็นเพื่อสนับสนุนการตอบสนองต่อภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขได้
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
4.3.2a มีแผนสาธารณะในการรับบุคลากรทางการแพทย์จากประเทศอื่น ๆ เพื่อตอบสนองต่อภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขหรือไม่?

เป้าหมาย: รัฐภาคีควรมีความสามารถในการสื่อสารความเสี่ยงซึ่งเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูล คำแนะนำ และความคิดเห็นแบบเรียลไทม์หลายระดับและหลายระดับระหว่างผู้เชี่ยวชาญและเจ้าหน้าที่หรือบุคคลที่เผชิญกับภัยคุกคามหรืออันตรายต่อการอยู่รอด สุขภาพ เศรษฐกิจ หรือสังคม เพื่อให้พวกเขาสามารถตัดสินใจอย่างรอบรู้เพื่อบรรเทาผลกระทบของภัยคุกคามหรืออันตราย และดำเนินการป้องกันและป้องกัน ประกอบด้วยการผสมผสานระหว่างกลยุทธ์การสื่อสารและการมีส่วนร่วม เช่น การสื่อสารผ่านสื่อและโซเชียลมีเดีย แคมเปญสร้างความตระหนักรู้ของมวลชน การส่งเสริมสุขภาพ การระดมทางสังคม การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และการมีส่วนร่วมของชุมชน ผลกระทบที่ต้องการ: หน่วยงานที่รับผิดชอบสื่อสารและรับฟังอย่างกระตือรือร้นและรวมข้อกังวลของสาธารณะและชุมชนผ่านสื่อ โซเชียลมีเดีย การรณรงค์สร้างความตระหนักรู้ของมวลชน การส่งเสริมสุขภาพ การระดมทางสังคม การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และการมีส่วนร่วมของชุมชน เพื่อเพิ่มการรับรู้ความเสี่ยงเพื่อลดและบรรเทา ผลกระทบที่คาดหวังจากอันตรายต่อสุขภาพก่อนระหว่างและหลังเหตุการณ์ด้านสาธารณสุข

หมวดหมู่ : บรรทัดฐาน

Indicators

5.1) การรายงานการปฏิบัติตามข้อกำหนดของ IHR และการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ

Index Score & Change from 2562
  • 100

  • 0.0
Rank

1/195

5.1 กฎระเบียบด้านสุขภาพระหว่างประเทศ (IHR) ที่รายงานการปฏิบัติตามข้อกำหนดและการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ:กฎระเบียบด้านสุขภาพระหว่างประเทศ (2005) (IHR) เป็นเครื่องมือที่มีผลผูกพันทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ 169 ประเทศ รวมถึงประเทศสมาชิกขององค์การอนามัยโลกทั้งหมด ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อ "ป้องกัน ป้องกัน ควบคุมและให้การตอบสนองด้านสาธารณสุขต่อการแพร่กระจายของโรคระหว่างประเทศในลักษณะที่สอดคล้องและจำกัดความเสี่ยงด้านสาธารณสุข และหลีกเลี่ยงการแทรกแซงการจราจรและการค้าระหว่างประเทศโดยไม่จำเป็น”

คะแนนตัวบ่งชี้นี้คือผลรวมถ่วงน้ำหนักของคะแนนตัวบ่งชี้ย่อยต่อไปนี้:
5.1.2: การบูรณาการด้านสุขภาพเข้ากับการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติระดับชาติ: การบูรณาการการพิจารณาเรื่องโรคระบาดและการระบาดใหญ่เข้ากับกลยุทธ์การลดความเสี่ยงระดับชาติ หรือแผนงานเดี่ยวสำหรับการลดความเสี่ยงจากการระบาด ถือเป็นขั้นตอนสำคัญในการวางแผนสำหรับการระบาดของโรคติดเชื้อ
ข้อมูลต่อไปนี้ใช้เพื่อกำหนดการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
5.1.2a: โรคระบาดและการระบาดใหญ่รวมอยู่ในยุทธศาสตร์การลดความเสี่ยงระดับชาติ หรือมีกลยุทธ์การลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติระดับชาติแบบสแตนด์อโลนสำหรับโรคระบาดและการระบาดใหญ่หรือไม่ (ใช่=1; ไม่ใช่=0)

Indicators

5.3) ข้อผูกพันระหว่างประเทศ

Index Score & Change from 2562
  • 96.9

  • +6.3
Rank

45

5.3: ข้อผูกพันระหว่างประเทศ:การมีส่วนร่วมพหุภาคีและการมีส่วนร่วมร่วมกันสามารถช่วยรักษาบรรทัดฐานระดับโลกเกี่ยวกับความมั่นคงด้านสุขภาพ อำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนความเชี่ยวชาญทางเทคนิค สร้างความปรารถนาดี และส่งเสริมความโปร่งใส

คะแนนตัวบ่งชี้นี้คือผลรวมถ่วงน้ำหนักของคะแนนตัวบ่งชี้ย่อยต่อไปนี้:
5.3.1: การมีส่วนร่วมในข้อตกลงระหว่างประเทศ: การมีส่วนร่วมในข้อตกลงระหว่างประเทศ (เช่น โดยการให้สัตยาบันสนธิสัญญา การรับข้อมติ ฯลฯ) สามารถเร่งการดำเนินการร่วมกันเพื่อการเตรียมพร้อมรับมือกับโรคระบาดและการระบาดใหญ่ ข้อมูลต่อไปนี้ใช้เพื่อกำหนดการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
5.3.1a: เคาน์ตีมีสถานะลงนามและให้สัตยาบัน (หรือมีผลทางกฎหมายเช่นเดียวกัน) ต่ออนุสัญญาว่าด้วยอาวุธชีวภาพและสารพิษหรือไม่ (ลงนามและให้สัตยาบัน [หรือการกระทำที่มีผลทางกฎหมายเหมือนกัน] = 2; ลงนาม = 1; ไม่ปฏิบัติตามหรือไม่เป็นสมาชิก = 0)
5.3.1b: ประเทศได้ยื่นมาตรการสร้างความเชื่อมั่นสำหรับอนุสัญญาว่าด้วยอาวุธชีวภาพและสารพิษในช่วงสามปีที่ผ่านมาหรือไม่ (ใช่=1; ไม่ใช่=0)
5.3.1c: รัฐได้จัดเตรียมรายงานมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSCR) 1540 ที่จำเป็นต่อคณะกรรมการคณะมนตรีความมั่นคงที่จัดตั้งขึ้นตามมติ 1540 (คณะกรรมการ 1540) หรือไม่ (ใช่=1; ไม่ใช่=0)
5.3.1d: ขอบเขตของการดำเนินการตามมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSCR) 1540 (ดีมาก [100+ คะแนน] = 4; ดี [75-99 คะแนน] = 3; ปานกลาง [50-74 คะแนน] = 2; อ่อนแอ [25- 49 คะแนน] = 1; อ่อนแอมาก [0-24 คะแนน] หรือไม่มีเมทริกซ์อยู่/ประเทศไม่ได้เป็นภาคีของ BWC = 0)
5.3.2: สมาชิกภาพโดยสมัครใจ: การเข้าร่วมโดยสมัครใจในกลุ่มหรือโครงการริเริ่มต่างๆ เช่น Global Health Security Agenda, JEE Alliance, Global Partnership, Australia Group และ/หรือ Proliferation Security Initiative แสดงถึงความมุ่งมั่นต่อความโปร่งใส บรรทัดฐานระดับโลก และการสร้างขีดความสามารถแบบร่วมมือ .
ข้อมูลต่อไปนี้ใช้เพื่อกำหนดการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
5.3.2a: ประเทศนี้มีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ต่อไปนี้อย่างน้อย 2 ข้อหรือไม่ การเป็นสมาชิกในวาระความมั่นคงด้านสุขภาพระดับโลก การเป็นสมาชิกใน Alliance for Country Assessments for Global Health Security และ IHR Implementation (JEE Alliance) การเป็นสมาชิกใน Global Partnership Against the Spread of Weapons and Materials of Mass Destruction (GP) การเป็นสมาชิกในกลุ่มประเทศออสเตรเลีย (AG) และ/หรือการเป็นสมาชิกใน Proliferation Security Initiative (PSI)? (ใช่อย่างน้อยสองกลุ่ม/ความคิดริเริ่ม = 1; สมาชิกน้อยกว่าสอง = 0)

Indicators

5.4) JEE และ PVS

Index Score & Change from 2562
  • 25

  • -25.0
Rank

32

5.4 การประเมินร่วมจากภายนอก (JEE) และประสิทธิภาพของเส้นทางการบริการด้านสัตวแพทย์ (PVS): JEE และ PVS เป็นเครื่องมือสำคัญในการวัดและติดตามความสามารถระดับชาติในการป้องกัน การตรวจจับ และการตอบสนองต่อภัยคุกคามจากโรคติดเชื้อที่มีผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์และสัตว์

คะแนนตัวบ่งชี้นี้คือผลรวมถ่วงน้ำหนักของคะแนนตัวบ่งชี้ย่อยต่อไปนี้:
5.4.1: การเสร็จสิ้นและเผยแพร่การประเมิน JEE และการวิเคราะห์ช่องว่าง: การเสร็จสิ้นการประเมิน JEE และการวิเคราะห์ช่องว่างสามารถช่วยให้ประเทศต่างๆ ระบุขีดความสามารถที่ต้องการการลงทุนเพิ่มเติม และ/หรือ การเสริมสร้างขีดความสามารถ
ข้อมูลต่อไปนี้ใช้เพื่อกำหนดการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
5.4.1a: ประเทศได้เสร็จสิ้นการประเมินภายนอกร่วม (JEE) หรือการประเมินภายนอกล่วงหน้า (เช่น การประเมินภายนอกนำร่องวาระความมั่นคงด้านสุขภาพระดับโลก) และเผยแพร่รายงานสาธารณะฉบับสมบูรณ์ในช่วงห้าปีที่ผ่านมาหรือไม่ (ใช่=1; ไม่ใช่=0)
5.4.1b: ภายในห้าปีที่ผ่านมา ประเทศได้จัดทำและเผยแพร่แผนปฏิบัติการระดับชาติเพื่อความมั่นคงด้านสุขภาพ (NAPHS) เพื่อแก้ไขช่องว่างที่ระบุผ่านการประเมินร่วมภายนอก (JEE) หรือวาระความมั่นคงด้านสุขภาพระดับโลกแห่งชาติ (GHSA) ) แผนงานที่กำหนดหลักชัยในการบรรลุเป้าหมาย GHSA แต่ละข้อ (ใช่=1; ไม่ใช่=0)
5.4.2: การเสร็จสิ้นและการเผยแพร่การประเมินการปฏิบัติงานของบริการสัตวแพทย์ (PVS) และการวิเคราะห์ช่องว่าง: การเสร็จสิ้นการประเมิน PVS และการวิเคราะห์ช่องว่างสามารถช่วยให้ประเทศต่างๆ ระบุขีดความสามารถที่ต้องการการลงทุนเพิ่มเติม และ/หรือการเสริมสร้างขีดความสามารถ
ข้อมูลต่อไปนี้ใช้เพื่อกำหนดการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
5.4.2a: ประเทศนี้เสร็จสิ้นและเผยแพร่การประเมินการปฏิบัติงานของบริการสัตวแพทย์ (PVS) ในช่วงห้าปีที่ผ่านมาหรือไม่ (ใช่=1; ไม่ใช่=0)
5.4.2b: ประเทศนี้ดำเนินการและเผยแพร่การวิเคราะห์ช่องว่างด้านการปฏิบัติงานของบริการสัตวแพทย์ (PVS) ในช่วงห้าปีที่ผ่านมาหรือไม่ (ใช่=1; ไม่ใช่=0)

Lorem ipsum dolor sit amet consectetur. Tempus nunc id diam donec mi dolor cursus urna imperdiet. Nisi in pretium elit elementum auctor. Lectus augue egestas vitae dui. Amet bibendum leo a sed turpis dis. Ullamcorper massa consectetur dignissim bibendum sit eu tellus. Nibh gravida eleifend nisi justo egestas libero rhoncus fermentum pulvinar. Nam eu auctor etiam id. Enim pulvinar nulla sed consectetur velit interdum lobortis. Magna mauris pellentesque quam malesuada. Lorem massa arcu hac euismod viverra urna. Morbi fermentum massa sed lectus morbi vestibulum. Hendrerit dignissim sed eu in nibh. Viverra tristique pulvinar sed massa et odio sed. Tincidunt purus sit tincidunt nunc consectetur et mauris dictum at. Ut maecenas urna dolor eu. Sagittis risus molestie in mi. Orci ac augue sed non dignissim. e molestie quis vel diam.

หมวดหมู่ : ความเสี่ยง

Indicators

6.1) ความเสี่ยงทางการเมืองและความมั่นคง

Index Score & Change from 2562
  • 46.1

  • +6.5
Rank

149/195

6.1 ความเสี่ยงทางการเมืองและความมั่นคง:ความเสี่ยงทางการเมืองและสังคมที่อาจเพิ่มความเปราะบางต่อภัยคุกคามทางชีวภาพ

คะแนนตัวบ่งชี้นี้คือผลรวมถ่วงน้ำหนักของคะแนนตัวบ่งชี้ย่อยต่อไปนี้:
6.1.1 ประสิทธิผลของรัฐบาล: ความสามารถของรัฐบาลในการตอบสนองในลักษณะที่มีการประสานงาน ปฏิบัติหน้าที่ ไม่ทุจริต และมีมนุษยธรรม มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเอาชนะวิกฤติด้านสุขภาพครั้งใหญ่ได้สำเร็จ
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
6.1.1a การกำหนดนโยบาย (คะแนน EIU; 0-4 โดยที่ 4=ดีที่สุด)
6.1.1b คุณภาพระบบราชการ (คะแนน EIU; 0-4 โดยที่ 4=ดีที่สุด)
6.1.1c ระบบราชการที่มากเกินไป/เทปสีแดง (คะแนน EIU; 0-4 โดยที่ 4=ดีที่สุด)
6.1.1d ผลประโยชน์/การวิจารณ์ (คะแนน EIU)
6.1.1e คะแนนประเทศเกี่ยวกับดัชนีการรับรู้การทุจริต (0-100 โดยที่ 100=ดีที่สุด)
6.1.1f ความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่รัฐ (คะแนน EIU; 0-4 โดยที่ 4=ดีที่สุด)
6.1.1g ความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชน (คะแนน EIU; 0-4 โดยที่ 4=ดีที่สุด)
6.1.2 การถ่ายโอนอำนาจอย่างเป็นระเบียบ: ความไม่มั่นคงและความขัดแย้งที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงอำนาจอาจเป็นอุปสรรคร้ายแรงต่อความสามารถของรัฐในการตอบสนองต่อวิกฤติอย่างมีประสิทธิผล และยังเปิดโอกาสให้กลุ่มต่างๆ ที่ต้องการได้มาซึ่งวัสดุชีวภาพ
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
6.1.2a กลไกทางรัฐธรรมนูญในการโอนอำนาจอย่างเป็นระเบียบจากรัฐบาลหนึ่งไปยังอีกรัฐบาลหนึ่งมีความชัดเจน เป็นที่ยอมรับ และชัดเจนเพียงใด
6.1.3 ความเสี่ยงจากความไม่สงบในสังคม: ประเทศที่มีความเสี่ยงสูงต่อความไม่สงบในสังคมไม่เพียงแต่ต่อสู้เพื่อให้เกิดความสามัคคีทางสังคมและภาครัฐในการตอบสนองต่อวิกฤติร่วมกัน แต่การระบาดของความไม่สงบสามารถขัดขวางผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและบุคลากรสำคัญอื่นๆ จากการตอบสนองด้านความปลอดภัย ข้อกังวล
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
6.1.3a อะไรคือความเสี่ยงของความไม่สงบในสังคมที่ก่อกวน?
6.1.4 กิจกรรมที่ผิดกฎหมายโดยผู้มีบทบาทที่ไม่ใช่รัฐ: การโจมตีของผู้ก่อการร้ายครั้งใหญ่และต่อเนื่องสามารถชะลอและอาจป้องกันการตอบสนองต่อวิกฤตด้านสุขภาพได้ ในทำนองเดียวกัน มีความเสี่ยงที่ผู้ก่อการร้ายจะใช้อาวุธชีวภาพหรือเคมี ทำให้เกิดวิกฤตด้านการรักษาพยาบาลที่ยั่งยืนและถึงแก่ชีวิตได้
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
6.1.4a มีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใดที่ผู้ก่อการร้ายในประเทศหรือต่างประเทศจะโจมตีด้วยความถี่หรือความรุนแรงที่ทำให้เกิดการหยุดชะงักอย่างมาก
6.1.4b การไหลของอาวุธผิดกฎหมายภายในประเทศอยู่ในระดับใด?
6.1.4c ความเสี่ยงในการก่ออาชญากรรมต่อรัฐบาลหรือธุรกิจในประเทศมีสูงเพียงใด?
6.1.5 ความขัดแย้งด้วยอาวุธ: ความขัดแย้งด้วยอาวุธบ่อนทำลายความสามารถของสถาบันของรัฐในการตอบสนองต่อวิกฤตด้านการดูแลสุขภาพ ขณะเดียวกันก็อาจสร้างเงื่อนไขสำหรับการแพร่กระจายของโรค (เช่น ผ่านสภาพที่ไม่ถูกสุขลักษณะในค่ายผู้ลี้ภัยที่แออัดยัดเยียด)
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
6.1.5a ประเทศนี้อยู่ภายใต้ความขัดแย้งในปัจจุบันหรือไม่ หรืออย่างน้อยก็มีความเสี่ยงปานกลางต่อความขัดแย้งดังกล่าวในอนาคต
6.1.6 การควบคุมอาณาเขตของรัฐบาล: หากรัฐบาลควบคุมอาณาเขตของประเทศได้อย่างจำกัด ความสามารถในการตอบสนองต่อวิกฤตด้านสุขภาพจะลดลง โดยจำกัดความสามารถในการควบคุมโรคก่อนที่จะแพร่กระจาย
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
6.1.6a อำนาจของรัฐบาลขยายไปทั่วอาณาเขตของประเทศหรือไม่?
6.1.7 ความตึงเครียดระหว่างประเทศ: หากประเทศใดถูกโดดเดี่ยวในระดับภูมิภาคหรือระดับโลก ประเทศนั้นสามารถบ่อนทำลายความพยายามในการเร่งรัดความช่วยเหลือและขัดขวางความพยายามในการปิดพรมแดนและมาตรการประสานงานอื่น ๆ ดังกล่าว
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
6.1.7a มีภัยคุกคามที่ข้อพิพาท/ความตึงเครียดระหว่างประเทศอาจส่งผลเสียหรือไม่?

Indicators

6.2) ความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจและสังคม

Index Score & Change from 2562
  • 63.1

  • +0.3
Rank

90

6.2 ความสามารถในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและสังคม:ความเสี่ยงทางสังคมและเศรษฐกิจที่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภัยคุกคามทางชีวภาพ

คะแนนตัวบ่งชี้นี้คือผลรวมถ่วงน้ำหนักของคะแนนตัวบ่งชี้ย่อยต่อไปนี้:
6.2.1 การรู้หนังสือ: การรู้หนังสือในระดับต่ำทำให้ความพยายามในการเผยแพร่ข้อความด้านสาธารณสุขเร่งด่วนในระหว่างเกิดการระบาดมีความซับซ้อน
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
6.2.1a อัตราการรู้หนังสือของผู้ใหญ่ ประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไป ทั้งสองเพศ (%)
6.2.2 ความเสมอภาคทางเพศ: มักเป็นกรณีที่ผู้หญิงเป็นผู้ดูแลในสังคมตลาดเกิดใหม่ และหากได้รับการจ้างงาน ก็จะทำงานนอกระบบในตลาดเกิดใหม่ สิ่งนี้ทำให้ผู้หญิงมีความเสี่ยงมากขึ้นทั้งทางร่างกายและเศรษฐกิจในช่วงที่มีการระบาดของโรค
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
6.2.2a คะแนนดัชนีความไม่เท่าเทียมทางเพศของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) (0-1 โดยที่ 1=ดีที่สุด)
6.2.3 การไม่แบ่งแยกทางสังคม: ประเทศที่มีระดับความยากจนสูงกว่าและความคุ้มครองโครงการประกันสังคมต่ำกว่า มักมีสุขภาพไม่ดีเมื่อเทียบกับพลเมืองที่ร่ำรวยกว่า และเข้าถึงยาและสถานพยาบาลได้น้อยลง
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
6.2.3a ช่องว่างความยากจนที่ 1.90 ดอลลาร์ต่อวัน (PPP ปี 2554) (%)
6.2.3b ส่วนแบ่งการจ้างงานในภาคนอกระบบ
6.2.3c ความคุ้มครองโครงการประกันสังคม (% ของประชากร)
6.2.4 ความเชื่อมั่นของสาธารณชนต่อรัฐบาล: ระดับความเชื่อมั่นที่ต่ำต่อรัฐบาลสามารถขัดขวางความพยายามของรัฐในการเผยแพร่แคมเปญด้านสาธารณสุข และในกรณีที่ร้ายแรงกว่านั้น อาจส่งผลให้มีการจำกัดการเดินทาง การกักกันตัว ฯลฯ นอกจากนี้ยังเพิ่มโอกาสที่ข่าวเท็จจะบ่อนทำลาย ความพยายามในการบรรเทาทุกข์ การแพร่กระจายความตื่นตระหนก ฯลฯ
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อกำหนดคะแนนตัวบ่งชี้ย่อย:
6.2.4a ระดับความเชื่อมั่นของประชาชนต่อรัฐบาล
6.2.5 สื่อท้องถิ่นและการรายงาน: แม้จะมีความเสี่ยงจากการให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง แต่สื่อที่มีประสิทธิภาพมักจะถูกจัดวางอย่างดีเพื่อรายงานการระบาดของโรค ตลอดจนให้รัฐบาลที่มีแนวโน้มที่จะเกิดข้อผิดพลาดหรือไม่แยแสต้องรับผิดในช่วงวิกฤต
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
6.2.5a การรายงานข่าวของสื่อมีความแข็งแกร่งหรือไม่? มีการอภิปรายประเด็นสาธารณะอย่างเปิดเผยและเสรีพร้อมความคิดเห็นที่หลากหลายอย่างสมเหตุสมผลหรือไม่?
6.2.6 ความไม่เท่าเทียมกัน: ความไม่เท่าเทียมกันในการกระจายรายได้และความมั่งคั่งทำให้ชุมชนบางแห่งมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในระหว่างการระบาดของโรคติดเชื้อ
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
6.2.6a สัมประสิทธิ์จินี

Indicators

6.4) ความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม

Index Score & Change from 2562
  • 60.4

  • -15.5
Rank

70

6.4 ความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมอาจทำให้ชุมชนมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นสำหรับเหตุการณ์การแพร่กระจายของสัตว์สู่คนและภัยพิบัติทางธรรมชาติ

คะแนนตัวบ่งชี้นี้คือผลรวมถ่วงน้ำหนักของคะแนนตัวบ่งชี้ย่อยต่อไปนี้:
6.4.1 การขยายตัวของเมือง: พื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการสุขาภิบาลที่ไม่ดี มีความเสี่ยงต่อการระบาดของโรคมากขึ้น
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
6.4.1a ประชากรในเมือง (% ของประชากรทั้งหมด)
6.4.2 การใช้ที่ดิน: เพิ่มความเสี่ยงของการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์/สัตว์ สิ่งต่อ
ไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อกำหนดคะแนนตัวบ่งชี้ย่อย:
6.4.2a เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงพื้นที่ป่าระหว่างปี 2551-2561
6.4.3 ความเสี่ยงจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ: เหตุการณ์สำคัญที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศสามารถบ่อนทำลายความพยายามในการบรรเทาทุกข์อย่างจริงจัง และอาจมีส่วนทำให้เกิดการแพร่กระจายของโรคได้
สิ่งต่อไปนี้ได้รับการประเมินเพื่อพิจารณาการให้คะแนนของตัวบ่งชี้ย่อย:
6.4.3a ความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะประสบกับการหยุดชะงักครั้งใหญ่อันเนื่องมาจากภัยพิบัติทางธรรมชาติคืออะไร?

เป้าหมาย: กรอบการทำงานระดับชาติสำหรับการถ่ายโอน (ส่งและรับ) มาตรการตอบโต้ทางการแพทย์ สาธารณสุขและบุคลากรทางการแพทย์ระหว่างพันธมิตรระหว่างประเทศในช่วงเหตุฉุกเฉินด้านสาธารณสุข
ตามที่วัดโดย: หลักฐานการตอบสนองอย่างน้อย 1 รายการต่อภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขภายในปีที่ผ่านมาที่แสดงให้เห็นว่าประเทศส่งหรือรับมาตรการตอบโต้ทางการแพทย์และบุคลากรตามระเบียบการระดับชาติหรือระดับนานาชาติที่เป็นลายลักษณ์อักษร หรือแบบฝึกหัดหรือการจำลองอย่างเป็นทางการที่แสดงให้เห็นถึงสิ่งเหล่านี้
ผลกระทบที่ต้องการ: ประเทศต่างๆ จะมีกระบวนการทางกฎหมายและกฎระเบียบที่จำเป็น และแผนด้านลอจิสติกส์ เพื่อให้สามารถเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนได้อย่างรวดเร็ว และรับบุคลากรด้านสาธารณสุขและทางการแพทย์ในกรณีฉุกเฉิน ความร่วมมือระดับภูมิภาค (ระหว่างประเทศ) จะช่วยประเทศต่างๆ ในการเอาชนะความท้าทายด้านกฎหมาย ลอจิสติกส์ และกฎระเบียบในการส่งบุคลากรด้านสาธารณสุขและการแพทย์จากประเทศหนึ่งไปอีกประเทศหนึ่ง

หมวดหมู่ : ทดสอบเพิ่ม

Indicators

เทสเทส

Index Score & Change from 2562
  • 50

  • -50
Rank

1

เทสเทส

ทดสอบเพิ่ม

Provincial
Health Security
Capacity

เครื่องมือประเมินระดับจังหวัดมีหลายเครื่องมือ อย่างไรก็ตาม ณ ปัจจุบัน อยู่ระหว่างการพัฒนา เครื่องมือกลางที่แต่ละจังหวัดจะสามารถนำไปใช้ ประเมินขีดความสามารถของตนเอง

ในส่วนนี้ นำเสนอข้อมูลพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับระบบ สุขภาพและผลการประเมินด้วยเครื่องมือ ใน 14 จังหวัดชายแดน

โครงการนำร่องการประยุกต์ใช้ตัวชี้วัด GHSA ใน 14 จังหวัด

โครงการนำร่องการประยุกต์ใช้ตัวชี้วัด GHSA ใน 14 จังหวัดโครงการนำร่องการประยุกต์ใช้ตัวชี้วัด GHSA ใน 14 จังหวัดโครงการนำร่องการประยุกต์ใช้ตัวชี้วัด GHSA ใน 14 จังหวัด

ดูคะแนนตามหมวดหมู่ดัชนี
  • ภาคเหนือ
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • ภาคกลาง
  • ภาคตะวันออก
  • ภาคใต้
แสดงค่าดัชนี

ข้อมูลประชากร

-

-

-

ข้อมูลประชากร

-

ข้อมูลประชากร

-

-

-

-

-

ข้อมูลโรงพยาบาล

-

-

-

-

-

ข้อมูลเตียงโรงพยาบาล

-

-

-

-

-

-

ข้อมูลประชากร

-

-

-

-

เมื่อเข้าสู่วิกฤตโควิด 19 ซึ่งเป็นบททดสอบสำคัญ ทำให้ได้พิสูจน์ความจริงอีกครั้ง เน้นย้ำว่า โรคระบาดเป็นภัยพิบัติที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมได้อย่างรุนแรงอย่างที่ไม่เคยมีใครคาดคิดมาก่อน ความเสียหายกระทบทุกภาคส่วน และในวิกฤตก็มีโอกาส ประเทศต่างๆ ต้องปรับตัวและตอบสนองต่อการระบาดให้ทันท่วงทีเพื่อความอยู่รอด มีนวัตกรรมใหม่ๆ ในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจและสังคม มีการพัฒนายาและวัคซีนซึ่งสามารถดำเนินการได้สำเร็จในเวลารวดเร็ว อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะเรียกว่าประชาคมโลกสอบผ่านทางด้านวิทยาศาสตร์ แต่ถือว่าสอบตกในเชิงมนุษยธรรม ที่ประชาชนอีกหลายร้อยล้านคนทั่วโลก ไม่สามารถเข้าถึงการรักษาได้ โดยเฉพาะการเข้าถึงยาและวัคซีน ทั้งนี้เกิดจากหลายปัจจัย เช่น ลัทธิชาตินิยมที่มีการกักตุน เวชภัณฑ์ เอาไว้สำหรับประเทศของตน รวมถึงระบบสุขภาพของหลายประเทศที่ไม่เข้มแข็ง ทำให้ประชาชนไม่สามารถเข้าถึงการรักษาได้

บทเรียนจากโรคระบาดและภัยพิบัติในหลายทศวรรษที่ผ่านมา โดยเฉพาะวิกฤตโควิด 19 ทำให้ประชาคมโลก รวมถึงประเทศไทย ได้เรียนรู้ผลกระทบทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคมที่เกิดขึ้นอย่างกว้างขวางและรุนแรงกว่าการระ

 สำหรับประเทศไทย ซึ่งมีระบบสุขภาพที่เข้มแข็งจากการที่มีวิวัฒนาการและการลงทุนมาอย่างต่อเนื่องหลายทศวรรษ ส่วนหนึ่งที่สะท้อนขีดความสามารถประเทศไทยได้ดีคือ การมีหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก รวมถึงผลการประเมิน Global Health Security Index ค.ศ. 2021 ที่ประเทศไทยได้คะแนนเป็นลำดับ 5 จาก 195 ประเทศ อย่างไรก็ตาม จากการระบาดของโควิด 19 ได้สะท้อนให้เห็นว่า ประเทศไทย ยังมีประเด็นท้าทายและมีสิ่งที่จะพัฒนาได้อีกมาก เพื่อที่จะมีการเตรียมความพร้อมสำหรับการระบาดในอนาคตได้ดียิ่งขึ้น รวมทั้ง ภายหลังวิกฤตโควิด 19 บริบทสังคมแวดล้อมได้เปลี่ยนไป เข้าสู่บริบทวิถีใหม่ ซึ่งไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป