ในระดับนานาชาติได้ให้ความสำคัญกับการจัดทำเครื่องมือเพื่อประเมินขีดความสามารถด้านสาธารณสุขฉุกเฉิน โดยริเริ่มการดำเนินงานภายใต้กฎอนามัยระหว่างประเทศ ค.ศ. 2005 (IHR 2005) ซึ่งมีผลบังคับใช้ในปีค.ศ. 2007 ทั้งนี้รัฐสมาชิกได้ให้คำมั่นว่าจะพัฒนาขีดความสามารถด้านสาธารณสุขฉุกเฉินให้ถึงระดับมาตรฐาน ภายในปีค.ศ. 2012 โดยในระยะเริ่มต้นองค์การอนามัยโลกให้รัฐสมาชิกทำแบบประเมินตนเอง (self assessment tool) และพบว่ารัฐสมาชิกจำนวนหนึ่งขอผัดผ่อนที่จะดำเนินการและ ผลการประเมินตนเองไม่ตรงกับสถานะขีดความสามารถจริง ในปี ค.ศ. 2015 สมัชชาอนามัยโลกสมัยที่ 68 มีข้อมติที่จะพัฒนาการดำเนินการตาม IHR 2005 โดยมีข้อเสนอหนึ่งคือ ขอให้องค์การอนามัยโลกพัฒนาการประเมินขีดความสามารถด้านสาธารณสุข โดยการใช้แนวทางผสมผสานทั้งการประเมินตนเอง (Self evaluation) พิชญพิจารณ์ (Peer review) และการประเมินจากภายนอกด้วยความสมัครใจ (Voluntary External evaluation) โดยใช้ผู้เชี่ยวชาญจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งพิจารณายุทธศาสตร์ในการดำเนินงานควบคู่ไปด้วย เช่น การเชื่อมโยงและการขอคำมั่นจากฝ่ายการเมืองระดับสูง รวมถึงการเชื่อมโยงกับภาคส่วนต่างๆ และควรจะมีส่วนร่วมจากสำนักงานองค์การอนามัยโลกประจำภูมิภาคต่างๆ
ในปีค.ศ. 2018 องค์การอนามัยโลกจึงได้มีการพัฒนากรอบการประเมินการดำเนินงานตาม IHR ตามข้อมติของสมัชชาอนามัยโลก WHA68/22 Add.1 คือ The IHR Monitoring and Evaluation Framework (IHRMEF) ซึ่งมีองค์ประกอบสำคัญได้แก่ การรายงานหลักที่ต้องดำเนินการทุกปี (State Parties Annual Reporting) และ การประเมินด้วยความสมัครใจ (after action review, simulation exercise and voluntary external evaluation) ทั้งนี้ IHRMEF มีหลักการสำคัญคือ การร่วมรับผิดชอบและความโปร่งใส ประเทศร่วมเป็นเจ้าของ/ภาวะผู้นำขององค์การอนามัยโลก/การมีหุ้นส่วนที่ร่วมทำงานเชิงรุก การทำงานระหว่างภาคส่วน รวมถึงการประเมินที่เชื่อมโยงสู่การวางแผนและนำไปปฏิบัติ สำหรับ voluntary external evaluation ได้มีการพัฒนา Joint External Evaluation โดยนำ The Global Health Security Agenda Country Assessment Tool มาปรับและใช้ประโยชน์ร่วมกันเป็นเครื่องมือเดียว
ในระยะเวลาเดียวกัน คือ ในปีค.ศ. 2014-2015 ประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศกลุ่มมีรายได้สูงได้มีการจัดตั้ง GHSA (Global Health Security Agenda) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ป้องกัน ตรวจจับ และตอบสนองต่อโรคระบาดร้ายแรงที่จะสามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วและเพื่อกระตุ้นประเทศต่างๆ ให้ขับเคลื่อนการดำเนินงานตาม IHR 2005 และได้มีการจัดทำกรอบการติดตามประเมินผลการดำเนินงานตาม GHSA รวมถึงการจัดทำเครื่องมือประเมินขีดความสามารถของประเทศ (The Global Health Security Agenda Country Assessment Tool) ซึ่งเป็นเครื่องมือที่เป็นไปด้วยความสมัครใจและมีส่วนร่วมจากประเทศที่เป็นสมาชิก GHSA และ Global Health Security Index ที่มีกระบวนการประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญโดยใช้ข้อมูลสาธารณะใน 195 รัฐสมาชิกภายใต้ IHR 2005
โดยสรุป ในปัจจุบัน มีเครื่องมือประเมินขีดความสามารถด้านสาธารณสุขฉุกเฉินในระดับสากล 2 เครื่องมือหลัก คือ Joint External Evaluation (ซึ่งได้มีการบูรณาการกับ The Global Health Security Agenda Country Assessment Tool) และ The Global Health Security Index ที่มีการประเมินiรัฐสมาชิกภายใต้ IHR 2005 จำนวน 195 รัฐสมาชิกทั่วโลกมา 2 ครั้ง ในปี ค.ศ. 2019 และ 2021 นอกจากเครื่องมือนี้แล้ว ยังมีเครื่องมืออื่นๆ ที่พัฒนามาใช้ประเมินเพื่อเพิ่มเติมในประเด็นเฉพาะด้านที่สำคัญและพัฒนาช่องว่างได้เช่น UHPR (Universal Health and Preparedness Review), Intra-Action Review (IAR), After Action Review, simulation exercise
ในส่วนนี้จะขอเล่าถึง JEE, The GHS Country Assessment Tool และ Global Health Security Index เป็นหลักค่ะ ในภาพรวม JEE และ The GHS Country Assessment Tool มีหลักการในการทำงานและกระบวนการคล้ายคลึงกันมาก รวมถึงวิธีการวัด แต่มีความแตกต่างตรงที่ The GHS Country Assessment tool จะเน้นภัยสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับโรคติดต่อเป็นหลัก ในขณะที่ JEE เป็น all hazards อย่างไรก็ตาม JEE ฉบับที่ 3 (ล่าสุด) ได้พัฒนาและต่อยอดการเรียนรู้จาก The GHS Country Assessment Tool เป็นข้อมูลนำเข้าสำคัญ